ลุมพินี วิลล์ พัฒนาการ – ศรีนครินทร์ ที่ที่สุขภาพดีมีได้ทุกวัน

สมัยนี้เทรนด์การออกกำลังกายมาแรงนะครับ เห็นกันชัดๆ ก็ช่วงที่พี่ตูนออกมาวิ่ง ตั้งแต่เหนือจรดใต้เพื่อการกุศล นอกจากได้บุญแล้วยังได้สุขภาพที่ดีเป็นของแถม หลังจากครั้งนั้นก็ทำเอาใครหลายคนหลงรักการวิ่งขึ้นมาทันที นอกจากการวิ่ง ภาพที่เราๆ น่าจะเคยเห็นกันตอนขับรถกลับบ้านหรือไปเที่ยวต่างจังหวัด ก็คือภาพกลุ่มสิงห์นักปั่น ที่ปั่นจักรยานอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย เวลาเห็นทีไรก็อยากเปิดกระจกแล้วตะโกนไปบอก สู้ๆ นะคร้าบบบบ เสียจริง (แต่กลัวจะทำพี่เขาเสียสมาธิ ฮา..) แต่ถนนบ้านเราไม่ค่อยมีเลนสำหรับจักรยาน ก็อดห่วงเรื่องความปลอดภัยไม่ได้ ส่วนใครไม่ชอบโดนแดดข้างนอก เดี๋ยวนี้ยิมก็หาง๊ายง่าย ไม่ต้องไปทำสัญญารายปีกับแบรนด์หรูตามห้าง ก็สามารถหาที่ออกกำลังกายในราคาเบาๆ ตามตรอกซอกซอยได้ทั่วไปหมด บางที่จะเลือกจ่ายเป็นรายเดือน หรือรายวันก็ยังได้… แต่ขนาดว่าไปยิมง่ายแล้ว แว่นเอง ก็ยังเป็นประเภทเสียตังค์แล้วสบายใจ ไปไม่ไปค่อยว่ากัน ฮ่าๆ คือไม่ค่อยมีวินัย หรือบางทีก็อยากไปออกท่ามกลางธรรมชาติ สูดออกซิเจนไป ดูนก ดูปลาไปตามเรื่อง เลยรู้สึกว่ายังไปไม่คุ้มค่ารายเดือนเลย วันนี้ก็เลยจะอาสาพาไปดูโครงการที่เค้าเน้นตอบโจทย์คนรักสุขภาพ แบบ Active Lifestyle เรียกได้ว่าไม่ต้องออกไปไหน ก็ฟิตแอนด์เฟิร์มอยู่ที่คอนโดไปเล้ย

ภาพรวมโครงการ
โครงการที่พามาชมวันนี้คือ ลุมพินี วิลล์ พัฒนาการ-ศรีนครินทร์ เป็นคอนโด High Rise สูง 32 ชั้น 1 อาคาร บนพื้นที่กว่า 6 ไร่ มีห้องพักอาศัยรวมทั้งหมด 795 ยูนิต มีคอนเซ็ปต์แบบ Sport  เพราะงั้นทุกพื้นที่ก็เลยถูกออกแบบมาเพื่อรองรับการออกกำลังกายหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นกลางแจ้งหรือในร่ม กีฬาเป็นกลุ่มเป็นเดี่ยว กีฬาทางลู่และทางน้ำ รวมไปถึงพื้นที่สีเขียวที่รายล้อมอยู่โดยรอบโครงการ

ทำเลโดยรอบ
โครงการนี้ตั้งอยู่บนถนนพัฒนาการ เขตสวนหลวง ก่อนถึงซอยพัฒนาการ 35 อยู่เยื้องๆ กับอาคารทรูทาวเวอร์ 2 พื้นที่โดยรอบก็จะเป็นอาคารสำนักงานทั้งริมถนน หรือเข้าไปในซอย แต่คนทำงานแถวนี้หาของกินง่ายเพราะมีตลาดนัดใหญ่เบ้อเร่ออยู่ข้างๆ ตึกทรู ทั้งของกิน  ของใช้ ของเล่นเต็มไปหมด แต่เค้าเป็นตลาดกลางวันนะ ส่วนบริเวณใกล้เคียงก็จะมี Tesco Lotus พัฒนาการ, London Street, MaxValu Supermarket ศรีนครินทร์ และ KFC ที่เปิดตลอด 24 ชม. ส่วนสถานศึกษาที่อยู่ใกล้ๆ ก็คือ สถาบันเทคโนโลยีไทย-ญี่ปุ่น และ ม.เกษมบัณฑิตคร้าบ

การเดินทาง
แม้โครงการจะใช้รถยนต์เดินทางเป็นหลัก แต่รอบๆ ก็เชื่อมต่อถนนสายสำคัญได้ง่ายครับ ไม่ว่าจะเป็นถนนเพชรบุรีตัดใหม่ หรือถนนศรีนครินทร์ ถ้าจะไปรามคำแหง หัวหมาก ก็ลอดอุโมงค์ข้ามไปได้ตรงซอยพัฒนาการ 25 ถ้าจะไปสุขุมวิทก็เชื่อมต่อได้ที่ซอยสุขุมวิท 71 ไปออกแถว BTS พระโขนง พอดี นอกจากนี้ยังมีทางเชื่อมขึ้นทั้งทางพิเศษศรีรัช และทางด่วนฉลองรัชในระยะใกล้ๆ เข้านอกออกเมืองได้ รวมถึงถ้าใครชอบเที่ยว จะไปสนามบินสุวรรณภูมิก็ไม่ไกลครับ

สิ่งอำนวยความสะดวก
อย่างที่บอกไปว่าเค้าเน้นเรื่องของการออกกำลังกายเป็นพิเศษ ส่วนกลางจึงจัดมาให้อย่างอลังการทั้ง ลานฟิตแอนด์เฟิร์ม เพื่อการโยกย้ายส่ายสะโพกกันเป็นหมู่คณะ ห้องฟิตเนสกลางแจ้งและในร่ม ลู่วิ่งทั้งกลางสวนและที่ชั้น 7 ให้วิ่งกันท่ามกลางความร่มรื่นของสวนสวยๆ โดยไม่ต้องไปกังวลกับความปลอดภัยถ้าต้องไปวิ่งข้างนอก ยังมีลานสเก็ตบอร์ด และสนามสตรีทบาส สำหรับหนุ่มๆ ให้มากระโดดดั๊งค์บาสโชว์สาวกันแบบเท่ๆ มีพื้นที่สวนรวมใจให้มารำไทเก๊ก  เล่นโยคะกัน สนามเด็กเล่นสำหรับเจ้าตัวน้อยของบ้านได้มาทำกิจกรรมและพบปะเพื่อนใหม่ รวมไปถึงสระว่ายน้ำไร้ขอบยาว 28 เมตร  ให้ว่ายกันเพลินๆ เรียกได้ว่าอยู่ที่นี่ก็หมดข้ออ้างเรื่องไม่มีเวลาไปออกกำลังกายเลยนะครับ เค้ายกมาให้ใกล้ตัวขนาดนี้ ไม่ต้องฝ่ารถติด ไม่ต้องไปต่อคิว ความคุ้มค่าอยู่ใกล้ตัว สุขภาพดีอยู่ใกล้แค่เอื้อมจริงๆ

ก่อนไปชมห้องตัวอย่าง
โครงการนี้เค้ามีห้องพักอาศัยแบบเดียวคือ 1 Bedroom แต่ Layout จะแตกต่างกันทั้งแบบหน้ากว้าง แบบตอนลึกและแบบห้องมุม มีขนาดให้เลือกตั้งแต่ 26.50-36.50 ตร.ม. โดยชั้นพักอาศัยจะเริ่มที่บริเวณชั้น 7 ซึ่งเป็นชั้นเดียวกับสระว่ายน้ำ ซึ่งโครงการเค้ามีการเว้นระยะและปลูกต้นไม้เตี้ยๆ ไว้เพื่อความเป็นส่วนตัวของห้องพัก สิ่งที่ได้มาพร้อมห้องก็คือครัวแบบบิวท์อิน  และแอร์ นอกนั้นให้ลูกค้าเลือกตกแต่งห้องได้เองตามใจชอบเลย โครงการคาดว่าจะแล้วเสร็จประมาณกลางปี 63 ครับ สำหรับราคาเริ่มต้นก็อยู่ที่ 1.69 ล้านบาท  เฉลี่ยประมาณตร.ม.ละ 65,000 บาท และเป็นราคาเฉพาะ Presale เท่านั้นนะ!! ซึ่งจะมีขึ้นในวันที่ 25 สิงหาคมนี้แล้วด้วย

เอาเป็นว่าถ้าพร้อมแล้วเราเข้าไปดูห้องตัวอย่างกันเลยดีกว่าครับ ไปกันเล้ย!!!

#sneakreview #แอบดูห้องตัวอย่าง

**ก่อนอื่นเลยต้องขอเเอบกระซิบบอกนิดนึงว่า ภาพถ่ายจากห้องตัวอย่างนี้ รายละเอียดบางประการของโครงการที่ส่งมอบ อาจมีการเปลี่ยนแปลงตามความเหมาะสมได้ครับ …
สำหรับห้องแรกนี้เป็นห้องแบบ 1 Bedroom ขนาด 26.50 ตร.ม. ซึ่งเป็นขนาดเริ่มต้นของโครงการ และมีจำนวนยูนิตมากที่สุดด้วยครับ

เข้ามาด้านในจะเจอในส่วนของห้องครัวก่อน ซึ่งมีที่ค่อนข้างเยอะพอสมควร เดินสวนกันไปมายังได้เหลือๆ ไม่เบียดเลยครับ ส่วนทางด้านซ้ายมือ ก็ยังมีพื้นที่ให้ติดชั้นวางของที่ผนัง หรือใส่ชั้นวางรองเท้าเข้าไปได้อีก

ครัวที่ได้ทางโครงการเค้าก็บิวท์อินมาให้เรียบร้อยแบบนี้ เหมาะสำหรับเมนูอาหารง่ายๆ แบบไม่ต้องใช้วัตถุดิบอะไรมาก ทำเสร็จก็เก็บกวาดทำความสะอาดกันตรงนี้ไม่มีเลอะเทอะเข้าไปถึงห้องนอน และดีที่เป็นครัวปิด แต่อยู่ด้านหน้าก็ระบายอากาศช้านิดนึง

ในส่วนของห้องน้ำก็จะได้แบบนี้เช่นกันครับ จะไม่มีฉากกั้นโซนเปียก – แห้งให้นะ อันนี้ติดเพิ่มเองทีหลังครับ

ส่วนประตูกั้นห้องก็จะได้เป็นกระจกบานเลื่อนใสครับ กั้นไว้ให้ห้องดูเป็นสัดเป็นส่วนมากขึ้น แถมช่วยป้องกันกลิ่นอาหารหอมๆที่คุณพ่อบ้านทำ ไม่ให้ลอยไปเตะจมูกคุณแม่บ้านที่กำลังตั้งใจลดไดเอทอย่างจริงจังอยู่

ระยะความสูงเพดานก็อยู่ที่ 2.4 เมตรครับ ส่วนผนังห้องมาตรฐานก็จะเป็นฉาบเรียบทาสี ใครมาดูห้องตัวอย่างที่โครงการเค้ามีห้องเปล่าๆ แบบส่งมอบให้ดูด้วย ส่วนห้องตัวอย่างเค้าตกแต่งไว้สวยๆ เป็นไอเดีย แต่งตามได้ไม่ยากเลย

ในส่วนของห้องนอน ก็จัดวางตู้เสื้อผ้า แทรกโต๊ะหัวเตียงเล็กๆเข้าไป ก็สามารถวางเตียงขนาด 5 ฟุตเข้าไปได้ แถมยังเหลือที่ให้เดินด้านข้างได้อีก

นอกจากพื้นที่ด้านข้างจะใส่โต๊ะหัวเตียงได้ทั้งสองฝั่งแล้ว ยังมีพื้นที่ให้เดินได้อีกสบายๆ แถมยังสามารถจับ Daybed ชิดริมหน้าต่าง เอาไว้เป็นมุมนั่งอ่านหนังสือ ชมวิว ได้แบบชิลๆ

ส่วนบริเวณปลายเตียงสามารถติดชั้นวางทีวี หรือทำเป็นทีวีติดผนังก็จะช่วยประหยัดเนื้อที่ไปได้อีก ติดกระจกพร้อมวางเก้าอี้เล็กๆ เลือกสักมุมสำหรับเสริมสวยแต่งหล่อ หรือทำเป็นโต๊ะหนังสือยาวๆ แบบห้องตัวอย่างนี้ก็ได้มุมทำงานแล้วครับ

ส่วนโต๊ะกินข้าวก็คงจะต้องเลือกโต๊ะที่อเนกประสงค์หน่อย แบบที่พับเก็บได้สะดวก เลื่อนเข้าเลื่อนออกได้ง่าย จะได้ช่วยประหยัดเนื้อที่ในห้องได้บ้างครับ

มาต่อกันที่ห้องขนาด 28.00 ตร.ม.กันคร้าบบบ

ห้องทุกห้องที่นี่เค้าใช้ Layout ใหม่ สมัยก่อนห้อง LPN จะเอาครัวไว้ด้านใน ส่วน Living ก็เลยดูเล็ก คราวนี้เอาครัวมาไว้ด้านนอก ทำให้ห้องที่เหลือมีพื้นที่ใช้สอยเยอะขึ้น ดูกว้างกว่าเดิมมาก ได้พื้นที่ห้องนั่งเล่นและมุมทำงานที่ดูเป็นสัดส่วนมากขึ้นด้วย

พอเข้าห้องมาก็จะเจอเคาน์เตอร์ครัวทางซ้ายมือ จัดวางไว้เข้ามุมแบบพอดีๆ ทำให้ตู้เย็นต้องวางไว้ฝั่งตรงข้ามครับ

ต่อมาในส่วนของห้องนั่งเล่น จัดเป็นตู้บิวท์อินแบบนี้ ก็จะได้ที่เก็บของ พื้นที่ทำงาน มุมอ่านหนังสือเพิ่มขึ้น และใช้พื้นที่นิดเดียวได้หลายฟังก์ชั่น

สามารถวางโซฟาขนาดกำลังดีแบบนั่ง 2 คนสบายได้ ไว้นั่งดูละครกันให้เพลิดเพลิน แถมยังสามารถวางโต๊ะกาแฟขนาดเล็กไว้ด้านข้างได้ด้วย จะได้ไม่ต้องวางไว้ข้างหน้าให้เกะกะทางเดินครับ

ประตูระเบียงก็จะได้เป็นประตูกระจกบานเลื่อนแบบเต็มบานเปิดให้แสงเข้ามาในห้องได้อย่างเต็มที่ เปิดรับลมธรรมชาติก็ยังได้แบบสบายๆ ตื่นเช้ามาเล่นโยคะกันตรงนี้ได้เลย เหมาะสุดๆ

ส่วนพื้นห้องจะเป็นลามิเนตสีน้ำตาลแบบนี้ครับ

พื้นที่ตรงระเบียงขนาดกะทัดรัด แต่ก็สามารถวางเครื่องซักผ้าขนาดเล็กได้ ตรงนี้ทางโครงการเค้าติดก๊อกน้ำไว้ให้เรียบร้อยแล้ว ส่วนคอมเพรสเซอร์แอร์เค้าแขวนเอาไว้เหนือบานเลื่อน ทำให้ข้างล่างมีพื้นที่ใช้สอยเพิ่ม

ห้องนี้เป็น 1 Bedroom ที่กั้นผนังแยกห้องเอาไว้ครับ แต่ที่พิเศษคือ ผนังเนี่ย เค้าทำเป็นกระจกไว้ด้วย ก็จะได้ทั้งความเป็นส่วนตัว และความโล่งโปร่งเพียงแค่เปิดหรือปิดม่าน ทำให้ห้องดูไม่อึดอัดเกินไป

ห้องนอนดูน่ารักดีนะครับ ด้านขวาของเตียงสามารถจับโต๊ะหัวเตียงเล็กๆ วางเข้าไปได้ เอาไว้ตั้งโคมไฟ วางหนังสือ วางของได้จะได้หยิบสะดวกๆ หรือใครอยากเลื่อนเตียงไปชิดริมหน้าต่าง แล้วติดผ้าม่านแบบสั้นเอาก็ได้ จะได้มีพื้นที่อีกฝั่งเพิ่ม

ด้านขวาจับโต๊ะหัวเตียงใส่เข้าไป ส่วนด้านซ้ายก็เปลี่ยนให้เป็นโต๊ะเครื่องแป้งได้เลย อาบน้ำแต่งตัวออกมาจากห้อง จะได้สวยเสร็จทีเดียวไปเลย

ส่วนตู้เสื้อผ้าก็อาจจะต้องจับหันชิดริมกำแพงแบบนั้น หรือจะปรับหันเป็นแนวเดียวกับเตียงก็ยังได้ครับ อันนี้สุดแล้วแต่ใครจะชอบเลย

ห้องน้ำจะอยู่ด้านในห้องนอนนะครับ เผื่อถ้าแขกมาก็อาจจะต้อง ก๊อก ก๊อก ก๊อก เปิดประตู ขออนุญาตใช้ห้องน้ำกันสักหน่อย แต่สำหรับคนอยู่ก็ลุกเข้าห้องน้ำตอนกลางคืนสะดวก

ส่วนห้องสุดท้ายของวันนี้เป็นห้องมุมหน้าอาคารขนาด 34.50 ตร.ม. ซึ่งมีแค่ชั้นละ 2 ห้องเท่านั้นครับ

ห้องนี้เป็นสัดส่วน และได้ความเป็นส่วนตัวมากขึ้นไปอีกครับ เริ่มจากด้านซ้ายมือเป็นเคาน์เตอร์ครัว และสามารถวางตู้เย็นไว้ด้านข้างได้

แต่ก็ยังคงเหมาะกับทำอาหารเบาๆ นะ ถ้าใครจะจัดชุดใหญ่ก็ต้องระมัดระวังนิดนึง เพราะห้องนี้มีในส่วนของห้องนั่งเล่นอยู่ใกล้ๆกันเลย

ขนาดของห้องนั่งเล่นกว้างทีเดียวครับ สามารถจัดที่สำหรับดินเนอร์ ปาร์ตี้สุกี้ หรือชวนเพื่อนมาดูบอล ตรงนี้รองรับได้แบบสบายๆ โซฟาจัดวางได้สำหรับ 3-4 ที่เลย แถมระยะจากที่นั่งกับทีวีก็กำลังดีเลยครับ

พอเป็นห้องมุม ก็จะได้กระจกมุมแบบนี้เลยครับ เปิดมุมมองให้กว้างขึ้นกว่าเดิม แถมเปิดม่านรับแสงด้านนอกก็ช่วยให้ห้องสว่างเข้าไปอีก

พื้นที่ตรงนี้ จะติดทีวี 70 นิ้วยังได้เลย ระยะดูทีวีเกือบสามเมตรสบายๆ ครับ

เข้ามาในห้องนอน ใหญ่สมใจแล้วครับห้องนี้ วางเตียง 6 ฟุตเข้าไปได้ หลับเต็มอิ่มได้ทุกท่วงท่า แถมยังวางโต๊ะหัวเตียงด้านข้างได้อีกทั้งสองข้าง จะมีนิดนึงก็ตรงแอร์ไม่ได้หันเข้าหาเตียงเท่าไหร่ คงต้องปรับเย็นๆ ไว้หน่อย

โคมไฟใช้แบบแขวนก็ช่วยประหยัดเนื้อที่ไปได้เยอะครับ แถมยังดูดีมีสไตล์ด้วย

ส่วนปลายเตียงก็ติดทีวีได้อีกเครื่อง เผื่อคุณภรรยาติดละคร แต่คุณสามีอยากดูบอลจะได้ไม่ต้องแย่งกัน โดยจะใช้เป็นแบบติดผนังก็จะช่วยให้ทางเดินบริเวณปลายเตียงเดินได้สะดวกมากขึ้น

มุมนี้สามารถวางตู้เสื้อผ้าขนาดใหญ่ได้เลย แถมยังวางโต๊ะเครื่องแป้งได้แบบพอดีๆ อยู่ติดกับระเบียงกันเลย

ห้องน้ำจะอยู่ในห้องนอนเหมือนกันครับห้องนี้

  
เป็นยังไงกันบ้างครับกับโครงการ ลุมพินี วิลล์ พัฒนาการ –  ศรีนครินทร์ Layout แบบใหม่ของลุมพินีในปีนี้ทำให้พื้นที่ใช้สอยส่วนพักผ่อนกว้างขึ้น เค้าก็เอามาปรับใช้กับลุมพินี วิลล์ ด้วยครับ ทำให้เห็นว่าเดี๋ยวนี้โครงการราคาจับต้องได้นี่เค้าก็พัฒนาไปไม่เหมือนเดิมแล้ว ทั้งการออกแบบห้องชุด หรือการพัฒนาพื้นที่ส่วนกลางให้หลากหลายตามไลฟ์สไตล์คนเมืองปัจจุบัน สำหรับคอนโดราคาแค่นี้ ในทำเลแหล่งคนทำงาน น่าสนใจจริงๆ ครับ

ติดตามเราได้ที่ : facebook

ติดต่อสอบถาม : Contact