‘ฮาบิแทท กรุ๊ป’ เปิดตัวโครงการ ‘วาลเด้น สุขุมวิท 39’ คอนโดมิเนียมลักชัวรี่ทำเลซีบีดี มูลค่า 950 ล้านบาท ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนเมืองและนักลงทุน

‘ฮาบิแทท กรุ๊ป’ เปิดตัวโครงการ ‘วาลเด้น สุขุมวิท 39’

คอนโดมิเนียมลักชัวรี่ทำเลซีบีดี มูลค่า 950 ล้านบาท

ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์คนเมืองและนักลงทุน

‘ฮาบิแทท กรุ๊ป’ รุกตลาดอสังหาริมทรัพย์ทำเลซีบีดี ต่อยอดความสำเร็จแบรนด์ ‘วาลเด้น’ (Walden) ลุยเปิดโครงการใหม่ คอนโดมิเนียมโลว์ไรส์ลักชัวรี่ ‘วาลเด้น สุขุมวิท 39’ มูลค่า 950 ล้านบาท บนแนวคิด Low Rise High Life เน้นคอนเซ็ปต์ดีไซน์การใช้ชีวิตใกล้ชิดธรรมชาติ ตอบโจทย์ความต้องการทุกมิติของคนเมือง และนักลงทุน เผยตลาดเช่าย่านสุขุมวิทแพงสุด 1,000 บาทต่อ ตร.ม.ต่อเดือน คาดผลตอบแทนจากการปล่อยเช่า 5%ต่อปี

 นายชนินทร์ วานิชวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ฮาบิแทท กรุ๊ป จำกัด ผู้นำด้านการพัฒนาโครงการอสังหาริมทรัพย์ระดับพรีเมี่ยมเพื่อการลงทุนของไทย เปิดเผยว่า แนวโน้มตลาดคอนโดมิเนียมระดับบนยังคงขยายตัวอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งยังเป็นสินค้าได้รับความสนใจอย่างมากทั้งจากผู้ซื้อเพื่ออยู่อาศัยเองและกลุ่มนักลงทุนคนไทยและต่างชาติ ซึ่งทำเลที่มีศักยภาพในการพัฒนามีค่อนข้างจำกัด โดยเฉพาะที่ดินในย่านสุขุมวิทและที่ดินติดรถไฟฟ้าซึ่งมีความต้องการสูง และราคาที่ดินยังปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่งผลต่อราคาคอนโดมิเนียมย่านสุขมวิท 39 ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมา (2557-2561)  ปรับตัวสูงขึ้นมาก จากราคาขายเฉลี่ย 160,000 บาทต่อตารางเมตร เป็น 275,000 บาทต่อตารางเมตรในปัจจุบัน

ทั้งนี้ คาดว่าแนวโน้มการพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมลักชัวรี่โลว์ไรส์ บนทำเลดังกล่าวน่าจะมีการเปิดตัวเพิ่มขึ้น เนื่องจากเป็นทำเลที่ทำกำไรได้ดีจากการปล่อยเช่า และยังเป็นทำเลที่มีอัตราการเข้าพักอาศัยสูง อีกทั้งยังมีอัตราค่าเช่าอยู่ในระดับสูงที่สุดของกรุงเทพฯ โดยอยู่ที่ 1,000 บาทต่อตารางเมตรต่อเดือน นอกจากนี้ พบว่าในย่านสุขุมวิท 39  มีชาวต่างชาติอาศัยอยู่เป็นจำนวนมาก โดยเฉพาะชาวญี่ปุ่นมีทั้งหมดประมาณ 100,000 ครอบครัว หรือประมาณ 250,000คน

        ดังนั้น ฮาบิแทท กรุ๊ป มองเห็นโอกาสจากตลาดดังกล่าว จึงได้เปิดโครงการคอนโดมิเนียมลักชัวรี่โลว์ไรส์ใหม่ ภายใต้ แบรนด์ “วาลเด้น สุขุมวิท 39” ซึ่งโดดเด่นด้วยการออกแบบให้ที่อยู่อาศัยอยู่ใกล้ชิดกับธรรมชาติ และมีการออกแบบพื้นที่ใช้สอยอย่างลงตัวเพื่อการใช้ชีวิตในเมืองได้อย่างไม่จำเจ และตอบสนองความต้องการของลูกค้าคนไทยและต่างชาติที่ต้องการที่อยู่อาศัยจริง รวมถึงกลุ่มนักลงทุนที่ต้องการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ที่มีศักยภาพอีกด้วย อีกทั้งเป็นการต่อยอดความสำเร็จของแบรนด์ ‘วาลเด้น’ (Walden) โครงการแรกบนทำเลอโศก ซึ่งเปิดตัวไปเมื่อต้นปีที่ผ่านมา ซึ่งได้รับการตอบรับที่ดีและมียอดขายไปแล้ว 90%

โดยโครงการ “วาลเด้น สุขุมวิท 39” มีมูลค่าโครงการ 950 ล้านบาท เป็นโครงการคอนโดมิเนียมลักชัวรี่ โลว์ไรส์ เพื่อการอยู่อาศัยและการลงทุน จำนวน1 อาคาร สูง 8 ชั้น มีทั้งหมด 116 ยูนิต บนเนื้อที่ 0-3-22 ไร่ อยู่ในซอยสุขุมวิท 39 ประกอบด้วยห้องชุดแบบ 1 ห้องนอน พื้นที่ใช้สอยตั้งแต่ 34.56 – 45.77ตารางเมตร จำนวน 95 ยูนิต, แบบ 2 ห้องนอน พื้นที่ใช้สอยตั้งแต่ 53.25 – 59.44 ตารางเมตร จำนวน 14 ยูนิต และแบบลอฟท์ การ์เด้นท์ 2 ห้องนอน 2 ชั้น พื้นที่ใช้สอยตั้งแต่ 60.53 ตารางเมตร จำนวน 7 ยูนิต คาดว่าจะเริ่มการก่อสร้างในช่วงไตรมาส 3 ปี 2562 และก่อสร้างแล้วเสร็จพร้อมเข้าอยู่ประมาณไตรมาส 2ปี 2564 ราคาเริ่มต้นตั้งแต่ 5.9 ล้านบาท

“สุขุมวิทนับเป็นทำเลศักยภาพที่ดีซึ่งไม่ได้เป็นเพียงแค่ทำเลที่อยู่อาศัย แต่ยังเป็นศูนย์กลางธุรกิจที่มีความสำคัญ โดยมีองค์ประกอบครบถ้วนทั้งด้านการเดินทาง โรงแรม 5 ดาว สำนักงานชั้นนำ แหล่งช้อปปิ้ง แหล่งท่องเที่ยว โรงพยาบาล และสถานศึกษาชื่อดัง ซึ่งจุดเด่นของโครงการคือ ทำเลที่ตั้งอยู่ในย่านพร้อมพงษ์ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นทำเลที่มีเสน่ห์เฉพาะตัว โดยทำเลที่ตั้งของโครงการอยู่ในซอยสุขุมวิท 39 ใกล้สถานีรถไฟฟ้า BTS พร้อมพงษ์ ศูนย์การค้าเอ็มควอเทียร์ และเอ็มโพเรียม อีกทั้งโรงพยาบาลสมิติเวช และสถานศึกษาชื่อดัง จึงสามารถตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าที่ต้องการทั้งความเป็นส่วนตัวและความมีชีวิตของไลฟ์สไตล์ใจกลางเมือง” นายชนินทร์ กล่าว

            สำหรับกลุ่มเป้าหมายจะเน้นกลุ่มซื้อเพื่อการลงทุน 70% และกลุ่มซื้อเพื่ออยู่อาศัยเอง 30% เพราะในแง่ผลตอบแทนด้านการลงทุนคอนโดมิเนียม ย่านสุขุมวิท เป็นทำเลที่ทำกำไรได้ดีจากการปล่อยเช่า โดยหากคำนวณจากอัตราค่าเช่าปัจจุบันที่ 1,000 บาทต่อตารางเมตรต่อเดือน คาดว่า “วาลเด้น สุขุมวิท 39” จะมีอัตราค่าเช่าอยู่ที่ 30,000 – 60,000 บาทต่อเดือน โดยอัตราผลตอบแทนเฉลี่ยจากการให้เช่าจะค่อนข้างสูงเฉลี่ยอยู่ที่ 5% ต่อปี ซึ่งหากเปรียบเทียบกับทำเลในเขตกรุงเทพฯ ชั้นใน ที่มีอัตราผลตอบแทนเฉลี่ยอยู่ที่ 3% ต่อปี ทำให้คอนโดมิเนียมในทำเลนี้ เป็นที่น่าสนใจในด้านการลงทุนปล่อยเช่า

            สำหรับโครงการ “วาลเด้น สุขุมวิท 39” นั้น ชูคอนเซ็ปต์การออกแบบในรูปแบบลักชัวรีดีไซน์ มอบความเป็นส่วนตัว พร้อมสร้างสรรค์พื้นที่เชื่อมโยงธรรมชาติให้ผู้อยู่อาศัยใกล้ชิดกับธรรมชาติในใจกลางเมือง ต้นไม้สีเขียวให้ความร่มรื่นทั้งพื้นที่อินดอร์และเอ้าท์ดอร์ และพื้นที่ส่วนกลาง สำหรับห้องแต่ละแบบจะมีดีไซน์โปร่งสบาย รวมถึงพื้นที่ใช้สอยขนาดใหญ่และมีฟังก์ชั่นการใช้งานที่สามารถปรับได้ตามไลฟ์สไตล์ของผู้อยู่อาศัย อีกทั้งการตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์ที่ทันสมัยจากแบรนด์ชั้นนำ

            นอกจากนี้ยังโดดเด่นด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกส่วนกลางที่ครบทุกความต้องการ ไม่ว่าจะเป็นล็อบบี้ ห้องออกกำลังกาย พร้อมด้วย Rooftop Facilitiesขนาดใหญ่ที่รายล้อมด้วยต้นไม้และพื้นที่สระว่ายน้ำมอบความผ่อนคลายและเพลิดเพลินไปกับบรรยากาศสบายๆ ใจกลางเมือง อาทิ สระว่ายน้ำสำหรับผู้ใหญ่และเด็ก จากุซซี่ ออนเซน พร้อมสเปซสำหรับกิจกรรมของทุกคนในครอบครัว ไม่ว่าจะเป็นมุมบาร์บีคิว สวนหย่อม และสนามเด็กเล่น 

อีกทั้งโครงการ “วาลเด้น สุขุมวิท 39” ยังโดดเด่นด้วยนวัตกรรมและเทคโนโลยีเพื่อที่อยู่อาศัยอย่าง ที่จอดรถอัตโนมัติ ซึ่งช่วยประหยัดเวลาในการหาที่จอดรถ และบริการ “Walden Privilege” แท็บเล็ตอัจฉริยะ ซึ่งเป็นนวัตกรรมที่จะช่วยอำนวยความสะดวกในการจับจ่ายของใช้ในซุปเปอร์มาร์เก็ตให้ส่งตรงถึงหน้าประตูบ้าน รวมไปถึงบริการแม่บ้านทำความสะอาด สั่งอาหาร และบริการชำระบิลต่างๆ ได้ง่ายเพียงปลายนิ้วสัมผัสอีกด้วย

“โครงการ “วาลเด้น สุขุมวิท 39” เป็นโครงการที่เรามั่นใจว่าจะได้รับการตอบที่ดีจากลูกค้า เพราะตั้งอยู่ใจกลางเมือง และหากพิจารณาในแง่ของการลงทุนทั้งจากการปล่อยเช่าและการถือครองระยะยาว ถือว่ามีศักยภาพในแง่การลงทุนสูงจากดีมานด์ใหม่ที่เพิ่มขึ้น ทั้งชาวไทยและต่างชาติที่ย้ายมาอยู่อาศัยตามสถานที่ทำงาน โดยเฉพาะชาวญี่ปุ่น และชาวจีน รวมถึงนักลงทุนในอสังหาฯ ถือเป็นกลุ่มเป้าหมายหลักของฮาบิแทท กรุ๊ป โดยบริษัทฯจะมีการบริหารจัดการการเช่าและอำนวยความสะดวกเรื่องการบำรุงรักษาห้องให้ผ่านบริษัท ฮาบิแทท ฮอสพิทอลลิตี้ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทในเครือที่มีทีมงานมืออาชีพ มีประสบการณ์ด้านการบริหารจัดการการเช่าเป็นผู้ดูแล และอำนวยความสะดวกให้แก่นักลงทุน อีกทั้งยังกำไรจากส่วนต่างราคา (Capital Gain) 3-5% ในทุกๆ ปี” นายชนินทร์ กล่าวปิดท้าย