แอบดูคอนโด Life อโศก – พระราม 9 พร้อมเข้าอยู่ปีหน้า เดินไปรถไฟฟ้าสบ๊าย

“ทำเลที่ดีที่สุดของการอยู่อาศัยแต่ละคนไม่เหมือนกัน” คำนี้น่าจะจริงนะครับ คนที่ทำงานเส้นรัชดาฯ อาจจะไม่ได้อยากอยู่ใจกลางเมืองแบบเพลินจิต หรือคนฝั่งธน ก็อาจจะไม่อินกับส่วนต่อขยายที่สถานีสำโรงแม้จะอยู่ติดรถไฟฟ้าเลยก็ตามที และวันนี้เราก็ได้ไปดูโครงการที่เหมาะสำหรับคนทำงานแถวรัชดาฯ พระราม 9 เอามาฝากกันครับ

สรุปสั้นๆ สำหรับชาวโควต้า 7 บรรทัด

โครงการที่ว่าคือ Life อโศก – พระราม 9 พร้อมเข้าอยู่ปีหน้าแล้วน้า ใครรู้อนาคตว่าจะต้องย้ายมาก็ดูห้องที่นี่กันได้ครับ โครงการนี้มีพื้นที่กว้างใหญ่ มาพร้อมกับ Facilities จัดเต็ม เพียง 300 ม. ถึง MRT พระราม 9 เป็นอาคารแรกของ AP ที่มีการเชื่อมพื้นที่ทั้ง 2 อาคารเข้าด้วยกันที่ชั้น Top Floor รวมพื้นที่ส่วนกลางชั้นบนสุดอลังการอย่าบอกใครกว่าไร่ครึ่ง ในราคาใหม่ คุ้มกว่าเดิม เริ่มที่ 118,000 บาท/ตร.ม. ถูกที่สุดในย่านนี้เลยครับ

คนที่สนใจลงทะเบียนรับสิทธิ์ได้ที่นี่ก่อนเลย >> https://bit.ly/33gmIZS

ใครที่โควต้าการอ่านยังเหลือมาต่อครับ

คอนโดนี้ตั้งอยู่ฝั่งถนนอโศก – ดินแดง บริเวณแยกพระราม 9 โซนที่ได้ขึ้นชื่อว่า NEW CBD สามารถเข้า ออกได้ทั้งฝั่งนี้และฝั่งถนนจตุรทิศครับ แต่สำหรับคนเดินเท้าจะมีทางเข้า-ออกบริเวณใกล้ๆ กับสะพานคลองสามแสนได้อีก 1 จุด และจุดนี้แหละที่จะสะดวกสุดในการเดินไปขึ้น MRT พระราม 9 ในระยะประมาณ 300 ม. เลยครั

นอกจากรถไฟฟ้าแล้ว โซนนี้มีขนส่งสาธารณะทุกรูปแบบครับ จะรถเมล์ พี่วิน หรือแม้แต่เจ้าพ่อสายเสมออย่าง Airport Link ซึ่งสถานีที่ใกล้ที่สุดคือ “สถานีมักกะสัน” (ระยะประมาณ 550 เมตร จากโครงการ) แต่ข้อดีคือสถานีนี้ขึ้นตอนเช้าได้สบายๆ เพราะเป็นสถานีปลายทางของใครหลายคน ก็เลยไม่ต้องเสี่ยงต่อคิวรอ 2-3 ขบวน เพราะงั้นคนที่นี่ก็จะมีตัวเลือกต่อไปรถไฟฟ้า BTS ได้ถึง 2 แบบ คือ นั่ง ARL จากมักกะสันไปต่อ BTS พญาไท หรือนั่ง MRT พระราม 9 ไปต่อ BTS อโศกนั่นเอง ส่วนอนาคตอีกไม่กี่ปีก็จะสบายขึ้นไปอีก เพราะมีรถไฟฟ้าสายสีส้ม ศูนย์วัฒนธรรมฯ – มีนบุรี ให้ใช้บริการ ที่สำคัญต่อให้รถติดไฟฟ้าดับ เราก็มีการสัญจรทางเรือเป็นทางรอดได้อีก อาศัยเรือโดยสารคลองแสนแสบที่ท่าเรือเพชรบุรีนี่แหละ คลาสสิคที่สุด

ส่วนความอุดมสมบูรณ์รู้จักกันดีนะครับ แหล่งงานเต็มพื้นที่ มั่งมีด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ แบ่งได้เป็นโซนๆ

โซนพระราม 9 มี เซ็นทรัลพระราม 9, The Grand Rama 9, Fortune Town, True Tower, Unicity และ ตลาดอยู่เจริญ

ถัดไปอีกฝั่งโซนอโศก- เพชรบุรี ก็มี Singha Complex, Mid Town Asoke, ตลาดรวมทรัพย์

วันไหนว่างหน่อยก็ไปแถวรัชดา-ห้วยขวาง มีทั้ง Esplanade Cineplex, ตลาดนัดรถไฟรัชดา, Big C Extra, ตลาดละลายทรัพย์ รัชดา, Big C Extra หรือตลาดที่เต็มไปด้วยของอร่อยอย่างตลาดห้วยขวาง

กลับเข้ามาที่ตัวโครงการกันบ้าง Life อโศก – พระราม 9 เป็นคอนโดมิเนียม High-Rise 2 อาคาร อาคาร A สูง 42 ชั้น และ อาคาร B สูง 45 ชั้น รวมห้องพักอาศัยทั้งหมด 2,248 ยูนิต ในพื้นที่ 8 ไร่กว่า โดยขายห้องแบบ Fully-Fitted

เริ่มที่แบบ Studio ขนาด 25–27.5 ตร.ม.

  • 1 Bedroom ขนาด 32 ตร.ม.
  • 1 Bedroom Plus ขนาด 35–40 ตร.ม.
  • 2 Bedroom 1 Bathroom ขนาด 45-46.5 ตร.ม.
  • 2 Bedroom 2 Bathroom ขนาด 58 ตร.ม.

🌿 โดดเด่นด้วยความยิ่งใหญ่ของส่วนกลาง บนพื้นที่สวนบนชั้น Rooftop ขนาด 1.5 ไร่ โดยพื้นที่บนดาดฟ้าสามารถสัมผัสวิวได้แบบ 360 องศา มีความสูงไล่ระดับกันถึง 3 ชั้น ซึ่งเป็นพื้นที่เชื่อมต่อกันระหว่าง 2 อาคาร มีสระว่ายน้ำจัดเต็มถึง 3 สระมาตรฐานโอลิมปิก ยาวสุด 50 เมตร พร้อม Jacuzzi นอกจากนี้ยังมีพื้นที่ส่วนกลางอื่นๆ ที่กระจายอยู่ภายในโครงการ ไม่ว่าจะเป็น ฟิตเนสที่ได้ถึง 2 ชั้น, Sky Lounge, Amphitheater, Co-Working Space, Pocket Garden และพื้นที่สีเขียวที่ล้อมตัวอาคาร

วันนี้พามาอัพเดทให้เห็นการก่อสร้างอาคารกันสักนิด โดยมีราคาเฉลี่ยเริ่มต้นที่ 118,000 บาท/ตร.ม. ใครที่สนใจคลิกเข้าไปลงทะเบียนกันที่นี่ได้เลยครับ อ่ะ ผมแปะลิงค์ให้อีกสักที >> https://bit.ly/33gmIZS

ก่อนตามผมเข้าไปเปิดประตูแอบดูห้องตัวอย่างกันคร้าบบ

#LivingSneakPeek #APThai #LifeAsokeRama9

Life อโศก – พระราม 9

ห้องตัวอย่างจะอยู่ที่เดียวกับโครงการ Life Asoke Hype เลยครับ ดังนั้นถ้าไปดู 1 ก็ได้ถึง 2 ซึ่งตัวโครงการ Life Asoke Rama 9 จะมีห้องตัวอย่างอยู่ 1 ห้อง คือห้องแบบ 1 Bedroom (Type B) ขนาด 32 SQ.M. ดังนั้นวันนี้เราก็เข้าไปเดินชมด้านในกันให้ครบทุกซอกทุกมุมเลยดีกว่า

ห้องที่นี่ขายแบบ Fully Fitted ให้อุปกรณ์พื้นฐานอย่างชุดครัว สุขภัณฑ์ในห้องน้ำ และแอร์ 2 เครื่อง ส่วนผนังจะเป็นฉาบเรียบทาสีขาวตามมาตรฐาน และมีเพดานสูง 2.6 เมตรครับ

ทุกห้อง ทุกการใช้งานถูกแยกออกจากกันอย่างชัดเจน ไม่ว่าจะเป็นพื้นที่ส่วน Living ห้องครัว ห้องนอนและห้องน้ำ ซึ่งก็มีข้อดีตรงที่ว่าเราสามารถจัดสรรข้าวของให้ดูเป็นระเบียบได้ง่ายๆ ของกินก็อยู่ในครัว เสื้อผ้าหมอนมุ้งอยู่ในห้องนอน กิจกรรมอื่นๆ ก็มาเก็บไว้ใช้ในห้องนั่งเล่น เช่นพวกตู้เก็บของ ชั้นวางหนังสือ ได้ทั้งความเป็นส่วนตัว และการใช้งานก็จะสะดวกสบายยิ่งขึ้น ส่วนข้อที่ผมไม่ชอบอ่ะเหรอ ก็เวลาโดนงอนทีไร กว่าจะยอมเปิดประตูให้ก็สว่างโน่น ได้นอนบนโซฟายันเช้าทุกที ฮ่าๆ

แล้วสำหรับห้องไซส์นี้ ทุกฟังก์ชั่นมันกว้างๆ กำลังดีน่าใช้งานหมดเลย

อย่างห้องนั่งเล่นก็จะเป็นเหมือนศูนย์กลางที่ทั้งเราแล้วก็เพื่อนจะมานั่งรวมตัวกันใช่มั้ยครับ ไม่ว่าจะเป็นคืนวันศุกร์เปิดหนังผีสักเรื่องแล้วนั่งเบียดกันบนโซฟา หรือดูหนังรักโรแมนติกใต้ผ้าห่มอุ่นๆ กับสุดที่รัก หยิบเอาแผนที่มากางเพื่อวางแผนเที่ยวยุโรปกันสิ้นปีนี้ หรือนั่งคิด Project เตรียมพรีเซ็นต์ลูกค้าในวันรุ่งขึ้น ดังนั้นการจัดพื้นที่ห้องนั่งเล่นให้โล่งสบายก็ดูจะง่ายต่อการใช้งานทีเดียว ทีวีติดผนังเข้าไป ชั้นวางของบิวท์ต่อกัน หรือจะติดเพิ่มอีกสักชั้นด้านบนก็ดูจะช่วยเพิ่มพื้นที่ใช้สอยขึ้นเยอะเลยครับ

อย่าลืมวางรูปตอนเรายิ้มหวานใส่กรอบสวยๆ ตั้งโชว์ให้ได้เห็นทุกเช้าช่วยเพิ่มพลังก่อนออกจากบ้าน หรือจัดวางดอกไม้ต้นไม้น่ารักๆ ในขวดโหลที่เพิ่งไปเรียนจัดมาเมื่ออาทิตย์ก่อน จัดเรียงหนังสือเล่มโปรดไว้อย่างเป็นระเบียบ พร้อมเก็บเอกสารหรือของใช้ส่วนตัวไว้ในลิ้นชักให้เรียบร้อย จะได้มีห้องนั่งเล่นที่สวยงาม น่านั่ง ชวนพักผ่อน และพร้อมต้อนรับแขกอยู่เสมอครับ

ใครติดชอบยืดขา เหยียดแขน นอนซุกหมอนนุ่มๆ กับผ้าห่มอุ่นๆ อยู่ในคอนโดตอนวันหยุดไม่ยอมไปไหน ก็เนรมิตตรงนี้ให้เป็นได้ทั้งห้องนั่งเล่น ห้องดูหนัง หรือห้องรับแขกไปเลยครับ เพราะที่ตรงนี้เค้าให้มาค่อนข้างกว้าง ลองนำโซฟาตัว L มาจัดวาง แล้วเปลี่ยนจากโต๊ะกลางไปเป็นโต๊ะขนาดกะทัดรัดวางไว้ด้านข้างโซฟาแทน ก็จะช่วยให้ห้องเดินสบายขึ้น หรือจัดเต็มกับโซฟาชุดสวยแล้วเจาะช่องด้านหลังให้เป็นชั้นวางของแบบห้องตัวอย่างนี้ไปเลย ก็จะทำมีที่เก็บข้าวของเครื่องใช้ต่างๆ ได้อีกเพียบ แถมไม่กินพื้นที่การใช้งานส่วนอื่นด้วยครับ

ขยับเข้ามาอีกไม่กี่ก้าวก็เข้าห้องน้ำใช้งานได้เลย ห้องน้ำเค้าให้มาตามนี้ ทั้งฉากกั้นเปียก-แห้ง เจาะช่องไว้วางแชมพู ครีมนวดไว้ให้แล้ว กระจกบานใหญ่ให้ได้แต่งหน้าแต่งตัวสวยๆ เตรียมออกไปเดินช้อปปิ้งที่เซ็นทรัลกับเพื่อนๆ ครับ

พื้นและผนังเป็นกระเบื้องโทนสีตามนี้เลย

ห้องครัวกว้างไม่เบาเหมือนกันครับ ลองเข้าไปดูกันว่าจะเป็นยังไง

ครัวที่ได้จะเป็นครัวปิดที่ให้ประตูกระจกแบบบานเลื่อนมา แถมยังเป็นครัวติดระเบียง ถูกใจแม่ครัวพ่อครัวหัวป่าก์อย่างแน่นอน จะคลุกเคล้าเมนูโปรดได้หอมแค่ไหน ก็เปิดประตูให้ลม Flow เพื่อระบายอากาศได้สะดวก แถมยังมีพื้นที่เหลือพอให้ตั้งโต๊ะทานข้าวไว้ในนี้เลยด้วย ก็นั่งจริงๆ 3 ที่ก็ยังพอครับ

ชุดครัวโครงการเตรียมไว้ให้เรียบร้อยแล้ว Top หินสังเคราะห์ บานปิดแบบ Soft Close สีโทนอ่อนดูสบายตาสะอาดสอ้าน

ชุดครัวขนาดพอให้ทำกับข้าวเมนูเบาๆ ได้ มีฮูทดูดควันเพื่อความระบายอากาศได้อีกแรง พร้อมมี Back Splash กันเปื้อนผนังไว้ให้เช็คล้างทำความสะอาดง่ายขึ้น ครัวของเราจะได้ดูเงาวับอยู่เสมอ

เตาไฟฟ้าแบบ 2 หัวจาก FRANKE

ฮูทก็จาก FRANKE เช่นเดียวกันครับ

บริเวณระเบียงอย่าปล่อยให้เสียพื้นที่ไปเปล่าๆ ครับ เพราะตรงนี้เค้าเตรียมไว้ให้วางเครื่องซักผ้า โดยยกคอมฯ แอร์ขึ้นไว้ด้านบน ทำให้เราออกมาซักผ้าตากผ้ากันตรงนี้ได้เลย

เสร็จจากห้องครัวก็เข้ามาต่อที่ห้องนอนครับ

ห้องนอนก็กว้างเหมือนกันนะครับเนี่ย เข้ามาด้านในจะเห็นเลยว่าพอวางเตียงแล้ว รอบๆ ยังมีที่ให้เดิน ให้วางของได้อยู่อีก

เริ่มจากมุมขวาสุดนี้เราสามารถจัดให้เป็นมุมทำงานได้เลย บิวท์โต๊ะทำงานที่มาพร้อมลิ้นชัก แบบที่ประโยชน์ใช้สอยครบครันจบในตัว วางเก้าอี้ทำงานเข้าไปอีกสักตัว ก่อนจะกระเถิบเข้าไปเป็นพื้นที่เตียง

จะวางโต๊ะหัวเตียงเอาไว้ตั้งโคมไฟสวยๆ หรือเอาไว้เก็บหนังสือเรื่องดีๆ ก่อนนอนก็ยังพอครับ

ด้านข้างเตียงยังเหลือๆ ทำให้สามารถขึ้นลงเตียงได้ทั้งสองทาง เปลี่ยนผ้าปูที่นอนก็สะดวก ตอนกลางคืนจองนอนริมนี้ก่อนเพื่อนได้เลย จะได้นอนมองท้องฟ้ายามค่ำคืนผ่านกระจกบานใหญ่ที่เค้าให้มา

ดีไซน์ในห้องตัวอย่างนี่แต่งไว้หลากหลายสีสันดีนะครับ

หน้าต่างจะได้เป็นบนกระทุ้ง 1 บาน จากนั้นก็จับตู้เสื้อผ้าใส่เข้ามุมไปได้แบบลงตัวพอดี แต่ที่สำคัญคือให้เลือกตู้แบบประตูบานเลื่อน จะได้เปิดเข้าเปิดออกง่ายๆ ไม่กินที่ครับ

ปลายเตียงยังติดทีวีเพิ่มได้อีกตัว เอาไว้นอนดูซีรีย์ช่วงวันหยุดให้ตาแฉะกันไปเลย แขวนผนังแบบนี้ไม่เกะกะขวางทางเดิน ตำแหน่งแอร์ก็เย็นฉ่ำอยู่ฝั่งปลายเท้านี่แหละ

เดินออกมาด้านหน้า ชมหน้าตา Sales Gallery เท่ๆ ครับ กำแพงสูงตระหง่านเลยทีเดียว ที่เห็นสีแดงๆ นี่เค้าใช้สีหลักจากโครงการ Life Asoke Hype ซึ่งก่อสร้างตามมาทีหลัง จะเห็นว่าไซต์โครงการก็จะอยู่ด้านหลังนี่พอดีเลย ตอนนี้งานโครงสร้าง 100% แล้วไวมาก

คือตอนที่ไปดูโครงการช่วงนี้ บริเวณด้านนอกก็จะเห็นที่เค้ากั้นทำงานก่อสร้างกันหน่อย ไม่ต้องสงสัยไป เพราะเค้าดำเนินงานไปเรื่อยๆ เมื่อเดินผ่านเข้ามาด้านในก็จะเป็นมุมสงบๆ แบบนี้ Sales Gallery ด้านในเปิดทุกวันครับ

ทางเชื่อม 2 อาคารยังไม่สมบูรณ์นะ คงเพราะต้องชั้นบนสุดเรียบร้อยก่อน แต่ก็เริ่มเห็นแววๆ มาละครับว่าจะเชื่อมกันที่ตรงไหน

ถ้ามาจากถนนจตุรทิศก็เลี้ยวตรงนี้ก่อนถึงถนนอโศก-ดินแดงครับ

มาดูอาคารคู่แบบชัดๆ ในมุมนี้กันหน่อย สูงยาวได้ใจจริงๆ ครับ

ก่อนจบโพสต์นี้ผมมีภาพ Perspective โครงการมาฝากกันด้วย เพื่อจะได้เห็นภาพหลังโครงการแล้วเสร็จกันชัดเจนขึ้นนะ เริ่มจากพื้นที่สวนบริเวณบริเวณชั้น 7 ที่มีที่นั่งแบบ Private ลักษณะเป็นคู่ๆ ให้ใช้งาน อารมณ์แบบ Outdoor working space

พื้นที่ Sky Lounge พร้อมกระจกบานใหญ่ให้ชมวิวสบายตา

Innovative co-working space สำหรับนั่งทำงานพร้อมชมสวนสวยๆ ด้านนอก

โซนนั่งทำงานนี้มีหลายสไตล์นะครับ ด้านล่างเป็น Cocoon Chair โซฟาที่นั่งเดี่ยวที่ช่วยสร้างสมาธิปิดกั้นสิ่งรบกวนจากรอบข้างได้ด้วยการออกแบบที่โอบล้อมตัวเราไว้

ส่วนชั้น Mezzanine ก็มีที่นั่งทำงาน พูดคุยกันเป็นกลุ่มได้ด้วย พร้อมห้องประชุมที่สามารถจองเวลามาใช้ได้อย่างเป็นส่วนตัว

ที่นี่ส่วนกลางมีครบครันกันแต่ละอาคาร โดยดีไซน์ก็จะไม่เหมือนกันซะทีเดียว ทำให้อารมณ์การใช้งานแตกต่างกันเป็นตัวของตัวเอง

อันนี้ก็เป็นตัวอย่างอารมณ์ภาพ Lobby จาก Tower B ครับ

ทั้งหมดนี้ก็คือภาพของโครงการ Life Asoke Rama 9 ที่ Living Sneak Peek พาชมในวันนี้ครับ โครงการขนาดใหญ่ก็จริง แต่มาพร้อม Facilities ครบครัน และทำให้เค้าสามารถทำราคาได้คุ้มค่าสำหรับทำเลใกล้แยกพระราม 9 แบบนี้ และก็ยังเป็นจังหวะดีสำหรับคนที่รู้ตัวว่าจะต้องมาอยู่แถวนี้แต่ยังไม่พร้อมกู้ตอนนี้ ให้เก็บเงินเตรียมตัวกันอีกสักปี เพราะจะแล้วเสร็จและพร้อมเข้าอยู่ปลายปีหน้านี้ครับ