“แอสเซทไวส์” เดินหน้าเปิดแลนด์มาร์คใหม่ด้วย “โมดิซ ไรห์ม รามคำแหง” (Modiz Rhyme Ramkhamhaeng) ไลฟ์สไตล์คอนโดมิเนียมแห่งแรก และแห่งเดียวบนย่านรามคำแหง มูลค่าโครงการกว่า 1,790 ล้านบาท

แอสเซทไวส์ เดินหน้าลุยตลาดอสังหาฯ ครึ่งปีหลัง เตรียมปักธงแลนด์มาร์คแห่งใหม่ เปิดตัวโครงการ “โมดิซ ไรห์ม รามคำแหง” (Modiz Rhyme Ramkhamhaeng) ไลฟ์สไตล์คอนโดมิเนียมแห่งแรก และแห่งเดียวบนทำเลศักยภาพ ซึ่งนับว่าเป็นพื้นที่ไข่แดงในย่านรามคำแหง ด้วยมูลค่าโครงการกว่า 1,790 ล้านบาท ชูแนวคิด SYNCHRONIZE YOUR LIVING เชื่อมต่อทุกจังหวะชีวิตที่เป็นคุณ บน Next CBD ของกรุงเทพฯ ด้วยการเดินทางที่สะดวกสบาย  ใจกลางรถไฟฟ้า MRT สถานีรามคำแหง มาพร้อมพื้นที่ส่วนกลาง  และสิ่งอำนวยความสะดวกครบครันเพื่อเติมเต็มทุกความต้องการด้วย ไลฟ์สไตล์ รีเทล รองรับทุกจังหวะการใช้ชีวิต ในราคาเริ่มต้นเพียง 1.89 ล้านบาท พร้อมเปิดขายพรีเซลล์ 1 สิงหาคมศุกนี้  

กรุงเทพฯ – วันนี้ (9 ก.ค. 2563) นายกรมเชษฐ์ วิพันธ์พงษ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท แอสเซทไวส์ จำกัด (มหาชน) ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่มุ่งมั่นสร้างสรรค์ที่อยู่อาศัยคุณภาพ เพื่อจุดเริ่มต้นของการใช้ชีวิตที่ดี ภายใต้แนวคิด “ความสุขที่ออกแบบมาเพื่อคุณ” (We Build Happiness) เปิดเผยว่า “โมดิซ” (MODIZ) เป็นหนึ่งในแบรนด์คอนโดมิเนียมของบริษัทฯ ที่มีความโดดเด่นในด้านการออกแบบที่มีสไตล์โมเดิร์นผสมผสานกับ แรงบันดาลใจจากบริบทแวดล้อมของพื้นที่ โดยเน้นการเชื่อมต่อการเดินทางที่สะดวกสบายบนทำเลแนวรถไฟฟ้า รวมถึงการนำเทคโนโลยีเข้ามาประยุกต์ เพื่อให้ตอบรับกับทุกไลฟ์สไตล์ของกลุ่มเป้าหมาย จนทำให้ที่ผ่านมา ได้รับการตอบรับที่ดีจากลูกค้าตลอดมา ต่อเนื่องมาแล้วถึง 6 โครงการ ไม่ว่าจะเป็น โครงการโมดิซ ลาดพร้าว 18, โมดิซ อินเตอร์เช้นจ์, โมดิซ สเตชั่น, โมดิซ รัชดา 32, โมดิซ สุขุมวิท 50 และโมดิซ คอลเลคชั่น บางโพ   

ล่าสุด แอสเซทไวส์ ได้เดินหน้าพัฒนาโครงการคอนโดมิเนียมภายใต้แบรนด์โมดิซ (MODIZ) ต่อเนื่องเป็นโครงการที่ 7 โดยเปิดตัวโครงการ “โมดิซ ไรห์ม รามคำแหง” (Modiz Rhyme Ramkhamhaeng)  คอนโดมิเนียม ไฮไรส์สูง 30 ชั้น จำนวน 1 อาคาร ตั้งอยู่บนพื้นที่กว่า 2 ไร่ แบ่งเป็นที่พักอาศัย จำนวน 546 ยูนิต และไลฟ์สไตล์ รีเทล จำนวน 9 ยูนิต มูลค่าโครงการรวมกว่า 1,790 ล้านบาท โดยได้รับการออกแบบโครงการภายใต้แนวคิด “SYNCHRONIZE YOUR LIVING  เชื่อมต่อทุกจังหวะชีวิตที่เป็นคุณ”  โดยบริษัทได้เล็งเห็นถึงความสำคัญของการออกแบบที่พักอาศัยให้ตอบโจทย์การเปลี่ยนแปลงการใช้ชีวิตจากสถานการณ์โควิด-19 จึงได้ศึกษาข้อมูล และพัฒนาโครงการโมดิซ ไรห์ม รามคำแหง โดยใช้หลัก The Next Normal Living เพื่อให้เกิดเทคโนโลยี หรือ สิ่งใหม่ ๆ ที่ผสมผสานกับไลฟ์สไตล์การอยู่อาศัยที่เปลี่ยนแปลงไป และนำมาต่อยอด เพื่อเสริมสร้างความสมบูรณ์แบบของโครงการโมดิซ ไรหม์ รามคำแหง ผ่านแนวคิดทั้ง 3 ด้าน ได้แก่

1) Multi-Living Space New Normal เพิ่มคุณภาพในการอยู่อาศัย ด้วยการสร้างสรรค์สิ่งอำนวยความสะดวก และพื้นที่ส่วนกลางที่มีความหลากหลาย และครอบคลุม ไลฟ์สไตล์ รวมมากกว่า 25 โซน เพื่อตอบรับในทุกกิจกรรมของการใช้ชีวิต

2) Residence Utilization จากการศึกษาวิเคราะห์ว่า ผู้พักอาศัยในโครงการฯ มีความต้องการที่เพิ่มเติมมากขึ้นอย่างไร โดยเฉพาะในด้านสุขภาพ จึงเป็นที่มาของการสร้างสรรรค์ Health Station เพื่อยกระดับการอยู่อาศัยให้ครอบคลุมทุกการใช้ชีวิตเพื่อให้ลูกบ้านของแอสเซทไวส์ได้มีสุขภาพที่ดี บนพื้นฐานของความรวดเร็ว และสะดวกสบาย

3) Virtual Community ที่ศึกษาจากพฤติกรรมการปรับตัวของผู้คนในปัจจุบัน จึงได้คิดค้นการนำแอพพลิเคชั่น หรือเทคโนโลยีต่าง ๆ  เข้ามาปรับใช้ เพื่อเพิ่มความสะดวกสบายแก่ลูกค้า เช่น การนำ Telemedicine มาบริการภายในโครงการ เป็นต้น ทั้งหมดนี้ เพื่อตอบโจทย์ของการอยู่อาศัย ที่หลากหลายมากขึ้น มาพร้อมการคัดสรรเฟอร์นิเจอร์แบบ Fully Furnished ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว คำนึงถึงฟังก์ชั่นการใช้งานที่คุ้มค่าในทุกยูนิต ในราคาเริ่มต้นเพียง 1.89 ล้านบาท โดยคาดว่าจะแล้วเสร็จในช่วงไตรมาส 4/2565

โดย “โมดิซ ไรห์ม รามคำแหง” (Modiz Rhyme Ramkhamhaeng) ถือเป็นไลฟ์สไตล์คอนโดมิเนียมแห่งแรก และแห่งเดียวบนย่านรามคำแหง โดยยกระดับความพิเศษของการอยู่อาศัยบนพื้นที่ Next CBD แห่งใหม่ มาผสมผสานกับความโดดเด่นของโครงการ ทั้ง 5 ด้านที่พิเศษยิ่งกว่า ประกอบด้วย

Synchronize your Connectivity เดินทางแบบไร้รอยต่อ สู่ทุกจุดหมายกับทำเลศักยภาพของย่านรามคำแหง ซึ่งมีการเติบโตอย่างรวดเร็ว ความหนาแน่นในการอยู่อาศัยเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และยังมีปัจจัยสำคัญ อย่างรถไฟฟ้าสายสีส้ม, สายสีเหลือง และรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตลิ้งค์ ที่จะส่งผลต่อความเจริญของโซนนี้ ซึ่งจากการขยายตัวของรถไฟฟ้า จะทำให้ย่านรามคำแหง เป็นพื้นที่ Next CBD ที่ครบครันด้วยสถานที่สำคัญที่รองรับไลฟ์สไตล์ ไม่ว่าจะเป็นศูนย์การค้า, สถานศึกษา, โรงพยาบาล รวมไปถึงสถานที่สำคัญต่าง ๆ ทั้งภาครัฐและเอกชนมากมาย

โครงการฯ ตั้งอยู่บนทำเลที่ดีที่สุดบนถนนรามคำแหง เพียง 80 เมตร หรือใจกลางสถานีรามคำแหง บนแนวรถไฟฟ้าสายสีส้ม และเดินทางได้หลากหลายรูปแบบที่สะดวกสบายไม่แพ้กัน ไม่ว่าจะเป็นทางรถยนต์ ที่สามารถเชื่อมต่อกับถนนสายสำคัญไม่ว่าจะเป็น ถนนลาดพร้าว, ถนนพระราม 9, เลียบทางด่วนเอกมัย-รามอินทรา พัฒนาการ เอกมัย ทองหล่อ ใกล้กับทางพิเศษศรีรัช และใกล้กับท่าเรือรามคำแหง เพียง 500 เมตร ซึ่งสามารถเชื่อมต่อกับโซนต่าง ๆ ได้อย่างครอบคลุม

Synchronize your Live-Work-Play เชื่อมต่อสังคมคุณภาพและไลฟ์สไตล์ชีวิตที่ลงตัว ทั้ง Live, Work และ Play เพียบพร้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวก ด้วยไฮไลท์พิเศษอย่างไลฟ์สไตล์ รีเทลที่ตั้งอยู่บริเวณชั้น G ของโครงการ เพื่อตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์การอยู่อาศัยของผู้อยู่อาศัยมากที่สุด มาพร้อมร้านค้ายอดนิยมมากมาย และพื้นที่ส่วนกลางเฉพาะของโครงการแบบ Triple Facilities ครบครันทั้ง indoor และ outdoor ได้แก่The Rhyme Lobby ได้รับการออกแบบตกแต่งให้มีความสง่างาม, Harmonic Seating Space พื้นที่พักผ่อนด้านหน้าโครงการ,Infinity Horizon Pool  สระว่ายน้ำขนาดใหญ่พร้อมชมวิวเมืองอย่างใกล้ชิด, Cabana มุมพักผ่อนที่สามารถมองเห็นวิวสระว่ายน้ำอย่างชัดเจน, Savory Cooking Lab พื้นที่สำหรับคนชอบทำอาหาร, Cinematic Room โรงหนังส่วนตัวบนจอขนาดใหญ่, Moonshine Party Balcony สำหรับการชวนเพื่อนมาร่วมงานปาร์ตี้ได้แบบส่วนตัว มาพร้อมพื้นที่พักผ่อนอื่น ๆ อีกมากมาย อาทิ Sky Hot Pool, Long Table Dinning Room, Symphony Jacuzzi, Kids pool, Recreation Space, Haven Lounge, Co-working Common, Laundry Lounge, Library, Kiz Club และสำหรับชั้น Rooftop ของโครงการยังได้รับการออกแบบให้ผ่อนคลายอย่างที่สุดด้วยPanoramic Bar, Sky Pavilion, Cloud Deck และSky Garden Deck เป็นต้น

Synchronize your well-being โครงการฯ มีความพิถีพิถันและใส่ใจในทุกรายละเอียด โดยเฉพาะเรื่องสุขภาพ โดยจะมี O2 Generator ติดตั้งไว้ ตั้งแต่ล็อบบี้เพื่อให้ลูกบ้านได้รับอากาศที่บริสุทธิ์ รวมถึง Health Station หรือพื้นที่ตรวจสุขภาพ ซึ่งจะมีอุปกรณ์การตรวจสุขภาพต่างๆเพื่อให้ลูกบ้านได้ดูแลสุขภาพง่ายขึ้น และสามารถเข้าถึงโรงพยาบาลได้อย่างสะดวกและรวดเร็ว โดยไม่ต้องเดินทางไปถึงโรงพยาบาล พร้อมเพิ่มโซนShade garden สวนปลูกผักออร์แกนิค ที่มาพร้อม Radiant Seating และการคัดสรรเครื่องออกกำลังกายชั้นนำที่ครบครันบนพื้นที่ขนาดใหญ่ใน The Cloud Gym ทั้งยังได้ติดตั้งเครื่องกรองน้ำ พร้อมระบบเครื่องปรับอากาศที่มีฟิลเตอร์กรองฝุ่น PM2.5 อีกด้วย

Synchronize your smart living มาพร้อมกับเทคโนโลยี และนวัตกรรม ที่ได้มาตรฐานของแอสเซทไวส์ เพื่อช่วยอำนวยความสะดวกตอบรับไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิต ไม่ว่าจะเป็นDigital Door Lock, Bluetooth Sound System, Smart Locker, Smart Laundry และ AssetWise Applicationแอพพลิเคชั่นที่จะคอยอำนวยความสะดวกต่างๆ ในการอยู่อาศัยภายในโครงการฯ เพื่อตอบโจทย์วิถีชีวิตแบบ Smart Living อย่างแท้จริง

Synchronize your investment สำหรับย่านรามคำแหง เป็นทำเลที่มีดีมานด์ค่อนข้างสูง เนื่องจากเป็นทำเลที่มีความสะดวกสบาย สามารถเดินทางเข้า – ออกเมืองได้ง่าย อีกทั้งยังมีสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ ครบครันซึ่งแน่นอนว่าหากมองในแง่การลงทุน ถือเป็นอีกทำเลหนึ่งที่น่าสนใจ โดยในปี 2562 ที่ผ่านมา คอนโดมิเนียมบริเวณรามคำแหงมีจำนวนหน่วยขายสะสมสูงถึง 12,370 หน่วย จากจำนวนที่เปิดขายทั้งสิ้น 14,750 หน่วย และมีราคาขายเฉลี่ยของคอนโดมิเนียมอยู่ที่ 98,323 บาทต่อตารางเมตร ซึ่งทำให้ตลอดระยะเวลา 5 ปีที่ผ่านมา มีค่าเฉลี่ยสะสมในการปรับตัวขึ้นของคอนโด อยู่ในอัตราร้อยละ 7.2 ต่อปี (ข้อมูลจาก ไนท์แฟรงค์ ประเทศไทย) และปัจจุบันนี้ย่านรามคำแหง มีอัตราค่าเช่าเฉลี่ยระหว่าง 10,000 – 12,000 บาท ต่อเดือน และมี Capital Gain อยู่ที่ 8% โดยแอสเซทไวส์ ยังได้มอบความสะดวกสบายให้แก่ลูกค้า ผ่านบริษัทแอสเซท เอ พลัส (Asset A Plus) ซึ่งเป็นบริการรับฝากขายและฝากเช่าสำหรับทุกโครงการอสังหาริมทรัพย์ในกลุ่มแอสเซทไวส์ เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับลูกค้าที่ต้องการปล่อยเช่าที่พักอาศัยอีกด้วย

ด้าน นางสาวขวัญ พิทักษ์รักษ์สันติ Director จากบริษัท Tandem Architects (2001) จำกัด กล่าวถึงภาพรวมการออกแบบภายในโครงการฯ ว่า ได้รับแรงบันดาลใจมาจากความเป็นเมืองของกรุงเทพฯ ซึ่งเป็น 1 ในเมืองมหานครของโลกที่เต็มเปี่ยมไปด้วยชีวิตชีวา โดยสะท้อนออกมาอย่างเรียบง่ายด้วยเส้นสายในแนวตั้ง ผสานต่อเนื่องไปกับ landscape และ interior อย่างกลมกลืน เพื่อให้เป็นเรื่องราวที่ต่อเนื่องกัน พร้อมกับคำนึงถึงผู้ใช้งานเป็นสำคัญ โดยห้องพักภายในโครงการได้ออกแบบให้สอดรับกับความต้องการของคนรุ่นใหม่ พร้อมพื้นที่ส่วนกลางขนาดใหญ่ที่  ครบครัน โดย 3 ชั้นบนสุดคือ Cloud Facilities ที่มีพื้นที่ต่อเนื่องกัน ซึ่งลูกบ้านทุกคนสามารถสัมผัสได้ นอกจากนี้ การมีพื้นที่ retail ส่วนด้านหน้าโครงการเป็นของตนเอง ทำให้ตอบโจทย์การใช้ชีวิตของคนรุ่นใหม่ได้อย่างสมบูรณ์

นายทรงพล บุญฤทธิ์ ผู้ร่วมก่อตั้ง และ Associate Design Director บริษัท Designsplusstyle จำกัด กล่าวถึงการออกแบบตกแต่งและเลือกใช้วัสดุให้กับโครงการฯ ว่า สำหรับการตกแต่งภายในนั้น ได้รับแรงบันดาลใจมาจากคนรุ่นใหม่ที่ใช้วิถีชีวิตแบบคนเมือง มีความหลากหลายของไลฟ์สไตล์ โดยภายในโครงการฯ ตกแต่งในสไตล์ โมเดิร์น ใช้เส้นสายที่เรียบง่ายลงตัว และไดนามิคในเชิงของผิวสัมผัสของวัสดุ เช่น หินอ่อน, กระจกเงา รวมทั้งความสดชื่นของธรรมชาติสีเขียว ที่สอดคล้องเข้ามาในงานภายใน ออกแบบให้เป็นหนึ่งเดียวกัน เช่น ชั้นที่ 29 และชั้นที่ 30 ที่เน้นการออกแบบในแต่ละพื้นที่ให้สามารถเชื่อมต่อกับแสงและวิวของกรุงเทพฯ และปรับเปลี่ยนไปตามช่วงเวลาของวันในขณะที่ทำกิจกรรม ครอบคลุมทุกความต้องการ ทั้ง Co-working Common, Savory Cooking Lab, The Haven Lounge, Cinematic Room และ The Cloud Gym ตอบโจทย์ความต้องการของผู้พักอาศัยที่ สะท้อนความเป็นโมดิซ ไรห์ม รามคำแหงได้อย่างชัดเจน”

ด้าน นายธัชพล สุนทราจารย์ กรรมการและผู้ก่อตั้ง บริษัท Landscape Collaboration จำกัด กล่าวถึงการออกแบบภูมิทัศน์ว่า “เราต้องการสร้าง skyline ใหม่ให้กับพื้นที่ย่านรามคำแหง จึงได้ออกแบบอาคารและภูมิทัศน์ ให้เป็นองค์ประกอบธรรมชาติ เพื่อสร้างพื้นที่สีเขียวให้กับย่านรามคำแหง โดยตัวอาคารเปรียบเสมือนภูเขา ที่มีพื้นที่ สีเขียวเกาะอยู่ตามอาคาร ซึ่งจะลดหลั่นกันไปตามลักษณะของยอดเขา ซึ่งนอกจากตัวอาคารแล้ว พื้นที่ส่วนกลางเป็น สิ่งสำคัญ เพราะช่วงล็อคดาวน์ จะพบว่าคนที่อยู่อาศัยจริงจะมีความต้องการพื้นที่ในส่วนนี้เพิ่มขึ้น เราจึงออกแบบ สระว่ายน้ำที่เปิดมุมมองให้เห็นวิวเมืองย่านรามคำแหง และทางเดินที่บริเวณยอดอาคารยังเชื่อมโยงพื้นที่สีเขียวในแต่ละชั้นเข้าด้วยกัน เพื่อเพิ่มความสดชื่น สบายตาให้กับผู้พักอาศัยอีกด้วย”

ทั้งนี้ นายกรมเชษฐ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า “เรามั่นใจว่า โมดิซ ไรห์ม รามคำแหง จะเป็นอีกโครงการคุณภาพจากแอสเซทไวส์ ที่ครบครันทั้งการออกแบบ การเลือกใช้วัสดุ รวมถึงในแง่ทำเลที่มีศักยภาพในด้านของการเดินทางที่ใกล้รถไฟฟ้า พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกครบครันที่เราเตรียมไว้อย่างเต็มรูปแบบ ซึ่งมั่นใจว่าจะได้รับการตอบรับที่ดีจากกลุ่มลูกค้าทั้งเก่าและใหม่ได้อย่างแน่นอน

นอกจากนี้ บริษัทฯ ได้ยื่นแบบแสดงรายการข้อมูลและร่างหนังสือชี้ชวน (Filing) ต่อสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) เพื่อขอเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่ประชาชนเป็นครั้งแรก (IPO) เป็นที่เรียบร้อย ซึ่งการเข้าระดมทุนและจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ครั้งนี้ จะเป็นการเพิ่มศักยภาพในการเติบโตให้กับกลุ่มบริษัทฯ และมีเงินทุนสำหรับการนำมาพัฒนาโครงการโมดิซ ไรห์ม รามคำแหง รวมถึงพัฒนาต่อยอดโครงการต่าง ๆ ในอนาคต ซึ่งจะช่วยผลักดันให้ธุรกิจของกลุ่มบริษัทเติบโตอย่างแข็งแกร่งและยั่งยืน” นายกรมเชษฐ์ กล่าวในตอนท้าย

ทั้งนี้ ผู้สนใจสามารถลงทะเบียนรับส่วนลดสูงสุดถึง 500,000 บาทได้ที่ www.assetwise.co.th พร้อมเปิดให้ชมห้องตัวอย่างในวันที่ 20 กรกฎาคม เป็นต้นไป และเปิดขายพรีเซลล์ในวันที่ 1 สิงหาคม ศกนี้ ณ เซลล์ แกลเลอรี่ โมดิซ ไรห์ม รามคำแหง สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมโทร. 02-168-0000 หรือ Line: @assetwise