Life Ladprao Valley พบกับความผจญภัยได้ทุกวันที่บ้านคุณ

Life Ladprao Valley

โอ้โห จั่วหัวมาหยั่งกับภาพยนตร์จูราสสิคเวิร์ล ภาคต่อไปกำลังจะเข้า แต่หลังจากครั้งแรกที่ได้ฟังเรื่องราวของโครงการ “ใหม่” โครงการนี้ ที่ไม่ใช่ภาคต่อหรือภาคเสริมของ Life Ladprao Valley แอบดูก็ต้องเอามือทาบอกแล้วบอกว่า “น่าตื่นเต้นจริงๆ” มันคือ Life ที่ได้รับการ Craft อย่างพิถีพิถันขึ้นมาใหม่หมดจด พร้อมยกระดับซีรีย์ “Life” ที่ไม่ใช่แค่เรื่องของความหรูหราที่เพิ่มขึ้น แต่เป็นการสร้างเอกลักษณ์และตัวตนที่ชัดเจนไม่เหมือนใครในย่านนี้ ในทำเลที่เรารู้จักกันดีคือ ตรงข้ามเซ็นทรัลลาดพร้าว หรืออยู่ใกล้ๆ กับ Life Ladprao นี่แหละครับ
.
ไม่ว่าทุกคนจะออกเสียงมันว่า ไลฟ์ ลาดพร้าว แวลลี่ย์ (พร้อมกระดกลิ้นขึ้นติดเพดานปาก) ไลฟ์ ลาดพร้าว วัลเลย์ หรือ จะเอาง่ายๆ ว่า ไลฟ์ ลาดพร้าว 2 ตามแต่ถนัด โครงการนี้เป็นโครงการที่สร้างโดยได้รับแรงบันดาลใจจากหุบเขา และจิตวิญญาณของความตื่นเต้นท้าทายที่ได้ออกไปผจญภัย สะท้อนมาเป็นความโค้งเว้าที่เค้าเอาไปใช้หลากหลายไม่ว่าจะเป็นโครงสร้าง façade อาคาร หรือในพื้นที่ส่วนกลางต่างๆ ไปที่ไหนก็จะได้อารมณ์ Valley อย่างกลมกลืนหมด สวนของที่นี่ไม่ใช่แค่การเอาต้นไม้มาปลูกให้เยอะๆ แต่เป็นการไล่ระดับความหลากหลายของพืชพรรณ ตามแนวระดับความสูง และเราจะเห็นต้นไม้อยู่คู่กับน้ำไปแทบทุกที่ ตั้งแต่ป่าทุ่งหญ้าที่อยู่ในระดับพื้นดินซึ่งอยู่ต่ำที่สุดจากทั้งการตกแต่งป้ายทางเข้า รวมไปถึง Valley Passage สวนเขียวขจีพร้อมที่นั่งพักผ่อนตลอดทางเดินทะลุ ซ.พหลโยธิน 22 ด้านหลังโครงการ ป่าดิบชื้นซึ่งเป็นป่าที่ได้รับปริมาณน้ำฝนมากกว่าป่าแบบอื่นหรือที่นี่เรียกว่า “The Avalon” บนชั้น 6 และป่าดิบเขาซึ่งเป็นไม้ที่ขึ้นบนที่สูงบนชั้น 44 และ Rooftop เรียกว่าถ้าเราปีนเขาจะพบเจอพันธุ์ไม้ที่แตกต่างกันตามระดับความสูงยังไง ที่นี่ก็เป็นคอนเซปต์เดียวกันยังงั้นเลย นี่คือจุดเริ่มต้นของความน่าสนใจของโครงการนี้ครับ
.
ที่เริ่มด้วย Facilities ทั้งหมดคำนึงถึงผู้ใช้งาน ไม่ว่าจะมาเดี่ยว มาคู่ หรือ Hang Out เป็นกลุ่ม ภายใต้ Key Development “Private on Public Space” เพราะนี่คือความดีงามที่ชัดเจนมากของที่นี่ ที่แอบดูอยากจะเล่าให้ฟัง หากใครเบื่อหน่ายกับสระว่ายน้ำแบบทางสี่เหลี่ยมผืนผ้าที่แข่งกันยาวแล้วยาวอีก ลืมมันไปได้เลย สระว่ายน้ำที่นี่มีทั้งมุม โค้ง เว้า เหมือนสระตามหุบเขาธรรมชาติ และมีมาให้ถึง 3 สระ เริ่มจากสระ Contour ที่ว่ายได้จริงราวกับอยู่ท่ามกลาง Paradise Island พร้อมมุมนั่งพักผ่อนแบบเป็นกลุ่มบนชั้น 6 Aqua valley ที่ชั้น 44 พร้อมอุปกรณ์ออกกำลังกายแบบ Hydro Exercise และทีเด็ดที่ไม่พูดถึงไม่ได้คือ สระบนชั้นลอยเหนือชั้น 44 ที่เค้าเรียกว่า Grand Valley Bay ซึ่งมีส่วนนึงของสระเป็นพื้นอะคริลิกใส เรียกได้ว่า ถ้าเดินอยู่ข้างใต้จะเหมือนเดินลอดซุ้มใน Aquarium ที่เห็นสระอยู่ด้านบนพร้อมแสงแดดรำไรส่องลงมาเลย คนเดินลอดได้ความงาม ส่วนคนว่ายข้ามนี่คงต้องอาศัยความฟิตหุ่นกันนิดนึง ฮ่าๆ
.
นี่ยังไม่หมดเรื่องส่วนกลาง คงต้องเล่ากันทั้งวัน แต่แอบดูจะขอสรุปสั้นๆ เพื่อความครบว่า ที่ชั้น Ground จะมีทั้ง Smart Locker, The Canyon Lobby ที่ออกแบบมาให้หรูหราเหมือนอัญมณีในหุบเขา, Co-working space, Co-Living & Play, Meeting Room พอขึ้นมาที่ชั้น 6 ก็จะเจอกับ The Avalon สระ พร้อม Sunken Seat ไปต่อที่ชั้น 44 คือชั้นของส่วนกลางทั้งชั้น เจอสระแบบ Active Pool ที่เรียกว่า Aqua Valley พร้อม Skywalk Circuit ทางเดินเสมือนอยู่ท่ามกลางป่าเขามีขึ้นมีลงและเดินไปชั้นลอยได้ มีพื้นที่สำหรับปีนเขาจำลอง พร้อมพื้นที่พักผ่อนแบบ Indoor เต็มไปหมดทั้ง The Residence (Co-Party Space), Terrarium Library, Alpine Lounge (Sky Meeting Room), Valley Theatre Lounge พร้อมพื้นที่ทำกิจกรรมแบบ Outdoor พร้อมสระแบบ Lap Pool บนชั้นลอยของส่วน Rooftop ที่เรียกว่า Grand Valley Bay เอ้า พิมพ์จนเหนื่อย ถามหน่อยถ้าเป็นคนอยู่เอง มีส่วนกลางให้ใช้ไม่ซ้ำกันและคำนึงถึงทุกไลฟ์สไตล์ขนาดนี้ และที่สำคัญมันมีเรื่องราวอยู่ในนั้นด้วย ความรู้สึกคือที่นี่เปลี่ยนคอนโดให้น่าอยู่ทุกวัน ไม่ใช่แค่ที่พักสำหรับวันทำงานเท่านั้นเองครับ
.
ก่อนจากขอพูดถึงห้องและทำเลสักนิดนึง ที่นี่เน้น 1Bedroom 35 ตร.ม. ครับ ซึ่งเป็นห้องหน้ากว้างและ flexible มาก คือ Layout เนี่ยยืดหยุ่นให้สามารถปรับเปลี่ยน function ได้หมด ไม่ว่าจะเอาห้องนอนสลับห้องนั่งเล่น เปลี่ยนเป็นห้องทำงาน หรือจะทำ walk-in closet ได้หมด เพราะพื้นที่ออกแบบมาให้ใหญ่พอที่จะทำได้ตามใจคนอยู่เลย และ ขนาด 35 ตร.ม. นี้ก็ยังมี Layout ไม่ซ้ำกันอีก 3 แบบให้เลือก ที่เหลือก็คือ Studio ขนาด 28.8 ตร.ม. 1 Bedroom Executive 37 ตร.ม. 2Bedroom 1 Bath ขนาด 48.6 ตร.ม. และ 2 Bedroom 2 Bath ขนาด 57.8, 60 และ 66.5 ตร.ม. ครับ
.
ที่นี่คนชอบเดินน่าจะชอบนะ เพราะนอกจากประตูหน้าที่ติดถนนพหลโยธินแล้ว (ระยะ 350 ม. ถึง BTS ห้าแยกลาดพร้าว) ด้านหลังสามารถเดินผ่านสวน Valley Passage ไปทะลุซ.พหลโยธิน 22 ไปขึ้น MRT พหลโยธิน (ระยะ 380 ม.) ก็สะดวกครับ ส่วนใครที่ขับรถจะไปทางด่วนก็ออกได้ทั้ง ถ.พหลโยธินและวิภาวดี สุดท้ายคงไม่ต้องพูดอะไรมากกับพื้นที่แถบนี้ ใกล้ทั้งเซ็นทรัลลาดพร้าว, Union Mall, จตุจักร, Big C มีรถไฟฟ้าทั้ง BTS และ MRT ให้เลือกใช้ ที่ทำงานย่านนี้ก็เต็มไปหมดทั้ง ปตท., TMB, บางกอก แอร์เวย์, การบินไทย อาคาร Sun Tower, ไทยรัฐ จะหาของกินแค่เดินออกมาถนนพหลโยธินเลี้ยวซ้ายไปทางห้าแยกก็มีให้เลือกมากมาย นี่คือความสะดวกสบายในการใช้ชีวิตที่นี่คร้าบ
.
และเช่นเคยสำหรับแฟนเพจที่สนใจโครงการอย่าลืมไปลงทะเบียนรับส่วนลดพิเศษถึง 200,000 บาทได้ที่นี่ >> https://goo.gl/jh6Rni ก่อนที่เค้าจะเปิดจองผ่านระบบ iBooking ในวันที่ 26 ก.ค.นี้ กับราคาเริ่มที่ 3.49 ล้านบาทครับ ถ้าพลาดรอบนี้รออีกทีรอบพรีเซล 4-5 ส.ค.กันเลยนะ เอาล่ะ พูดมาเยอะแล้วให้ภาพเล่าเรื่องบ้างก็แล้วกัน พร้อมแล้วตามไปดูกันเลยคร้าบ
.
#sneakreview #แอบดูภาพรวมโครงการ

 

ติดตามเราได้ที่ : facebook

ติดต่อสอบถาม : Contact