Living Sneak Peek ชวนมาเปลี่ยนบรรยากาศนอนริมหาดชะอำ ฟังเพลงสบาย ภายใต้คอนเซ็ปต์ Music Lovers Hotel พร้อมเปิดวาร์ปร้านอาหาร “บ้านโชค (BAAN CHOK)” ร้าน(ไม่)ลับ ที่ทั้งอร่อย บรรยากาศดี แถมถ่ายรูปลงไอจีได้สวยสุดๆ ไปเลยครับ
“กริ๊งงง กริ๊งงง กริ๊งงงง กริ๊งงงงงๆๆๆ” ทันทีที่เสียงนาฬิกาปลุกดัง ผมก็ดันตัวขึ้นมาจากเตียงด้วยผมเผ้ายุ่งเหยิง สภาพเหมือนขนหน้าแข้งไม่ได้หวี (เอ๊ะ ปกติเค้าหวีกันด้วยเหรอ?) บิดซ้ายบิดขวานั่งทำสมาธิเล็กน้อย ก่อนจะลุกไปอาบน้ำ แล้วปล่อยให้สายน้ำจาก Rain Shower ไหลซามากระทบตัวอย่างช้าๆ … แต่งตัวเสร็จกวาดตามองไปรอบๆ เห็นโต๊ะทำงานกับคอมอยู่ตรงหน้า ผมถอนหายใจเฮือกใหญ่แล้วพึมพำกับตัวเองว่า “วันนี้ออกไปนั่งทำงานที่ไหนดีนะ?”
ใช้เวลาเคาะแป้นพิมพ์หาข้อมูลอยู่พักใหญ่จนได้คำตอบว่า “วันนี้ผมจะไปชะอำ” ขับรถออกไปต่างจังหวัดสะเลยครับ ถ้าอารมณ์มันจะสีเทาขนาดนี้ ไม่ได้เทาเพราะอกหักรักคุดอะไรหรอกนะ แต่เพราะชีวิตการทำงานของผมทุกวันนี้มันไม่เป็นเวลา เอาเป็นว่าขอแค่มีปลั๊กกับ Wifi ก็อยู่ได้ยาวๆ ดังนั้นร้านกาแฟ ร้านข้าวที่เค้าว่าดี น่านั่ง ผมก็ไปสำรวจมาหมดแล้ว แถมช่วงนี้หมอบอกถ้ากินชาไข่มุกอีกแก้วเดียวก็เตรียมตัดขาเถอะ ก็เลยขอพักร้อนจากการเข้าห้างนั่งร้านกาแฟ แล้วออกไปสูดอากาศบริสุทธิ์นอกเมืองดูบ้างครับ… อ่ะ ไหนๆ ก็ไปชะอำแล้วจะไม่นอนรับลมให้สมกับมาทะเลก็กระไรอยู่ พลันนึกถึงคำชวนจากชาญอิสระ ให้ไปดูว่าโครงการริมทะเลมันสวยแค่ไหน ผมจึงเก็บเสื้อผ้ายัดใส่กระเป๋า แล้วมุ่งหน้าสู่ “ทิวทะเลเอสเตท” โครงการ Condominium วิวทะเลจุดหมายปลายทางสำหรับคืนนี้ครับ แต่ที่สะดุดตาสะดุดใจก็เพราะที่นี่ไม่ได้มีแต่คอนโดนะ ยังมี “Baba Beach Club Hua Hin” โรงแรมและเรสซิเดนส์สไตล์บีชคลับ ริมทะเลชะอำ-หัวหิน By ศรีพันวา พร้อมร้านอาหารสวยๆ เปิดต้อนรับแขกผู้มาเยี่ยมเยือนอีก เอาล่ะสิมีแต่สิ่งที่น่าสนใจ เอาเป็นว่าสำหรับโพสต์นี้จะขอเล่าถึงตัวโรงแรมและร้านอาหารกันก่อนก็แล้วกัน
ขับรถจากกรุงเทพฯ ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมงครึ่ง ก้าวลงจากรถด้วยความหน้าชื่นตาบาน
พาลกระหยิ่มยิ้มย่องว่า นี่เราหนีเที่ยว เอ้ย! เปลี่ยนที่ทำงานได้สำเร็จ ก็ได้เวลาเดินชมภายในโครงการ โดยเริ่มจาก Baba Beach Club โรงแรมสุดหรูซึ่งยังแม้จะไม่ได้นอนในคืนนี้ ก็ขอเก็บภาพมาให้แฟนเพจได้ชมกันก็ยังดี ที่นี่มีหน้าหาดสงบๆ ให้ได้ออกมาเดินทอดน่อง หรือถ่ายคลิปเล่นกับเพื่อนๆ ยาวกว่า 160 เมตร
โดยห้องพักจะมีวิวทะเลแบบพาโนรามาพร้อมสระว่ายน้ำส่วนตัว จำนวน 18 ห้อง และลักซ์ชัวรี่พูลวิลล่า 11 หลัง มีให้เลือกหลายแบบหลายสไตล์ เพียบพร้อมด้วยการบริการระดับ 5 ดาว และสิ่งอำนวยความสะดวกครบครับ ไม่ว่าจะเป็น Beach bar & restaurant, Fitness, Spa, สระว่ายน้ำ และร้านอาหารบ้านโชค (Baan Chok) ร้านอาหารแนว Cafe & Eatery ที่อยู่ติดริมทะเลเลยครับ ด้านหน้ามีผืนหญ้าสีเขียว ตัดกับท้องฟ้าคราม สามารถมาจัดเลี้ยง จัดงานแต่งบริเวณนี้ได้ด้วย ลักษณะเป็นบ้านหลังสีขาว 2 ชั้น ให้ความรู้สึกวินเทจและคลาสสิค ซึ่งแต่เดิม “บ้านโชค” เป็นบ้านพักตากอากาศของตระกูลโชควัฒนา แต่ถูกนำมารีโนเวทใหม่ให้เป็นร้านอาหารและสถานที่จัดเลี้ยงนั่นเองครับ
และแล้วก็ได้เวลาเดินชม Beachfront Pool Suite ขนาด 95 ตร.ม. ซึ่งเรียกว่าแม้ว่าหาดอยู่หน้าโรงแรมแค่ไม่กี่ก้าว แต่การมีสระว่ายน้ำอยู่ในห้องเนี่ยแหละ ตอบโจทย์การมาพักผ่อน โชว์หน้าท้อง 1 Pack และมานั่งทำง๊านนนนน (เสียงสูง) เป็นที่สุดฮะ
ในส่วนของพูลวิลล่านั้นผมไม่ได้เข้าพัก เพราะวันนี้กดเงินมาไม่พอ (หร๊า..) ผมเลยใช้หน้าตาให้เป็นประโยชน์ขออนุญาตทางโรงแรมเค้าเข้าไปเก็บภาพมาฝากแทนครับ
จ๊อก จ๊อก … จู่ๆ ท้องมันก็ร้องทัก ใช่จริงด้วยครับ ห้องสวยจนลืมไปเลยว่าหิว! นึกขึ้นได้แล้วผมก็ตรงดิ่งไปร้านอาหารบ้านโชคต่อทันที เมนูอาหารของที่นี่จะเป็นแบบฟิวชั่น ทั้งของทานเล่น สลัด แซนด์วิช พาสต้า และขนมหวาน ทั้งเค้ก บิงซู รวมถึงชุด Afternoon tea ที่ชวนให้สั่งมาถ่ายรูปได้แบบเก๋ๆ
แหม้ วันนี้อิ่มทั้งสายตา แถมยังอิ่มท้องอีก ก็ได้เวลาออกไปเดินชมวิวทะเลเหงาๆ เสมือนสวมบทพระเอกมิวสิควีดีโอเพื่อให้พาสต้าซอสแกงปูมันค่อยๆ ย่อยสลายไป ก่อนจะเดินลงไปให้เท้าสัมผัสน้ำทะเลเย็นๆ จนชุ่มฉ่ำ ก่อนกลับเข้าห้องพร้อมเปิดเพลง Jazz คลอเบาๆ แล้วเอนตัวลงนอนอย่างช้าๆ ตื่นเช้ามาเปิดประตูรับลมเย็นๆ แล้วนึกขึ้นได้ว่า ….
อ่าว ลืมทำงาน
