รีวิวคอนโด “Mori Condominium” คอนโด Minimal Japanese Style ใจกลางเมืองทองธานี ใกล้ที่ช้อปปิ้ง มาพร้อมเฟอร์ครบ เริ่มต้นเพียงไม่ถึงล้าน

เมืองทองธานี ชื่อนี้หลายคนคุ้นเคยเพราะเป็นทั้งศูนย์แสดงสินค้า สถานที่ประชุม และจัดงานอีเวนต์ระดับโลกมากมาย ตลอดระยะเกือบ 50 ปีของการพัฒนา มีทั้งพื้นที่จัดงาน ออฟฟิศ โรงแรม แหล่งช้อปปิ้ง ที่อยู่อาศัยขนาดใหญ่ และพื้นที่พักผ่อนหย่อนใจ ดึงดูดสิ่งอำนวยความสะดวกอื่นๆ ให้มาอยู่รายล้อมในพื้นที่ทั้ง ม.สุโขทัยธรรมาธิราช, ม.ศิลปากร , รร.เซนต์ฟรังฯ, หน่วยงานราชการ ร้านค้าและร้านอาหารต่างๆ มากมาย

ผืนดินเกือบ 4,000 ไร่ได้กลายเป็นเมืองที่มีผู้คนเดินทางผ่านไปมาและใช้ชีวิตที่นี่กว่า 2 แสนคน ยังไม่รวมการมาถึงของรถไฟฟ้าสายสีชมพูที่กำลังจะเปิดทดลองใช้ต้นปีหน้า ก่อนจะพัฒนาส่วนต่อขยายเข้ามาในเมืองทองอีก 2 สถานี เมื่อรวมกับพื้นที่รอการพัฒนาสวยๆ ริมทะเลสาบรองรับ ทั้งหมดนี้คือ อนาคต ที่เมืองทองธานีกำลังเติบโตไปข้างหน้าที่น่าสนใจสำหรับการอยู่อาศัยและการลงทุน จนเป็นที่มาของการพัฒนา Mori Condominium ในวันนี้ครับ

ทำเลและสิ่งอำนวยความสะดวก

อยู่ในเมืองทองธานีนี้เดินทางได้สบายหลายเส้นทางไม่ว่าจะเป็น ถ.แจ้งวัฒนะ และ ถ.เลียบคลองประปา สามารถเข้าสู่โครงการได้จาก 3 ทาง (ข้าง รร.เซนต์ฟรังฯ ทั้ง 2 ด้านและทางเข้าจากป๊อบปูล่าคอนโด) ใช้ทางด่วนได้จากทั้งทางพิเศษศรีรัช และดอนเมืองโทลล์เวย์ในละแวกใกล้เคียง ส่วนการนั่งรถสาธารณะนอกจากพี่วินและ Taxi แล้ว ยังมีสถานีรถตู้อยู่ใกล้ๆ โครงการห่างเพียง 700 เมตร ที่บริเวณชั้น 2 ห้าง Cosmo Bazaar ​ ที่สะดวกสุดๆ ​ และที่สำคัญก็คือสถานีส่วนต่อขยายของสายสีชมพูอีก 2 สถานีที่มุ่งเข้าสู่เมืองทองนี่แหละครับ (คาดว่าจะเปิดให้บริการในอีก 2-3 ปีข้างหน้า) ​ ที่จะมาช่วยปลดล็อคการเดินทางของคนในเมืองทองให้ไม่ต้องทนกับการจราจรอีกต่อไป

การพัฒนาพื้นที่ในเมืองทองธานีนี้เป็นประโยชน์สำหรับชาวเมืองทองมาก ผมจำได้ว่าสมัยก่อนไปเมืองทองก็จะนึกถึงแต่เวลาจัดงาน ถ้าจะใช้ชีวิตอยู่ก็คิดว่าคงจะต้องออกมาหาอะไรข้างนอก แต่เดี๋ยวนี้มีทุกอย่างครบหมดครับ โดยเฉพาะส่วน Retail ที่มีทั้ง Cosmo Bazaar, Cosmo Walk, Outlet Square ที่อยู่เชื่อมต่อกันเป็นพื้นที่ขนาดใหญ่ มีร้านค้าเต็มไปหมดให้มาช้อปปิ้ง กินข้าว ดูหนัง (ร้านอาหารใน Food Court อร่อยและราคาไม่แพงด้วยนะ) ยังไม่นับ Beehive Lifestyle Mall ที่อยู่ไม่ไกลกัน ทำให้ภาพการใช้ชีวิตในนี้มันสะดวกขึ้นเยอะมาก และล่าสุดเค้าก็เตรียมพัฒนาอาคารพาณิชย์ใหม่ชื่อ Mori Walk ที่มีร้านค้ากว่า 23 shop พร้อมที่จอดรถ 5 ชั้น อยู่เยื้องกันกับ Mori Condo แบบเดินไปช้อปได้เลยรองรับคนอยู่ที่นี่ด้วย และรอบๆ เมืองทองธานีเองก็ยังเต็มไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกบน ถ.แจ้งวัฒนะ ทั้งเซ็นทรัล แจ้งวัฒนะ, Makro, Lotus’s, Villa Market โรงเรียน โรงพยาบาล Office ขนาดใหญ่ ​ เดินทางไปสนามบินก็ง่ายครับ

ภาพรวมโครงการ Mori Condominium

โมริ คอนโดมิเนียม เป็นอาคารสูง 16 ชั้น รวม 1,040 ยูนิต พร้อมร้านค้า 20 ยูนิตในโครงการ มีห้องตั้งแต่ขนาด 28.06-61.08 ตร.ม. มี Facilities ให้บริการลูกบ้านทั้งพื้นที่สีเขียวด้วยสวนส่วนกลาง สระว่ายน้ำ และห้อง Fitness ครับ โครงการเน้นการออกแบบเพื่อสร้างบรรยากาศพักผ่อนภายใต้ธรรรมชาติที่ร่มรื่นและเรียบง่าย ผ่านการจัดวางสิ่งอำนวยความสะดวกไว้ใน Court กลางโครงการครับ

รูปแบบห้อง

ที่นี่มีรูปแบบห้องให้เลือกหลากหลายมากถึง 7 แบบ จุดที่มีเหมือนกันคือได้ครัวปิดทั้งหมดตั้งแต่ห้องขนาดเริ่มต้นเลยครับ และยังมาพร้อมเฟอร์นิเจอร์ครบชุด ที่เค้าออกแบบมาเป็น Minimal Japanese Style ซึ่งก็คุมโทนได้น่ารักดีเหมาะกับห้อง ประกอบด้วย

แบบ 1 Bedroom

  • Type C ขนาด 31.5 – 32.2 ตร.ม.
  • Type D ขนาด 27.7 – 27.8 ​ ตร.ม.
  • Type GB ขนาด 33 ตร.ม.
  • Type GC ขนาด 32.8 – 33.4 ​ ตร.ม.

แบบ 1 Bedroom Family : Type B ขนาด 37.6 – 37.7 ​ ตร.ม.

แบบ 2 Bedroom

  • Type A ขนาด 40.7 – 40.8 ​ ตร.ม.
  • Type GA ขนาด 60.7 – 60.9 ​ ตร.ม.

บทสรุปความน่าสนใจและราคา

Mori Condominium เป็นคอนโดที่พัฒนาในขณะที่เมืองทองมีทุกอย่างพร้อมสรรพสำหรับการอยู่อาศัยและการลงทุนแล้วครับ แถมยังเติบโตไปข้างหน้าโดยเฉพาะการมาของรถไฟฟ้าสายสีชมพูที่หลายคนรอคอยมากที่สุดด้วย ทำให้การใช้ชีวิตในนี้สมบูรณ์มากขึ้น นอกจากการเดินทางแล้ว ลูกบ้านคอนโดยังสามารถ access สู่แหล่งช้อปปิ้งและเลือกอาหารการกินในนี้ง่าย แค่เดินไม่กี่ก้าวก็มี Mori Walk ให้บริการ และด้วยถนนเส้นเดียวตรงมาก็เชื่อมต่อกับโซน Retail หลัก ทั้ง Cosmo Bazaar, Cosmo Walk, Outlet Square ได้ในไม่กี่นาทีครับ

โครงการมีราคาขายเริ่มต้นไม่ถึงล้าน (ปัจจุบันอยู่ที่ประมาณเก้าแสนกว่าบาท) มาพร้อมกับเฟอร์นิเจอร์ไม้ยางครบชุดที่เข้าคู่กันและ Match กับพื้นที่ภายในห้อง คอนโดนี้จึงเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจสำหรับคนที่เพิ่งเริ่มใช้ชีวิตได้เป็นอย่างดี เพราะที่อยู่อาศัยในราคาที่จับต้องได้แบบนี้ สามารถเลือกผ่อนแทนการเช่าอยู่ได้เลย (ราคาคอนโดเข้าเกณฑ์โครงการสินเชื่อดอกเบี้ยพิเศษสำหรับบ้านหลังแรกของ ธ.ออมสิน ด้วย) เช่นเดียวกับสำหรับคนที่มองเห็นโอกาสในการลงทุนปล่อยเช่าสำหรับคอนโดที่พัฒนามาให้แตกต่างจากโครงการที่มีอยู่แล้วในโซนเดียวกันครับ

ใครที่สนใจสามารถคลิกลงทะเบียนรับสิทธิจากโครงการได้ที่นี่เลยครับ >> https://www.bangkokland.co.th/mori ​

#LivingSneakPeek #รีวิวคอนโด #Moricondo #โมริคอนโด #คอนโดเมืองทอง #คอนโดแจ้งวัฒนะ #คอนโดมินิมอล

 

ไปดูกันครับว่า

Condo Mori Condominium

 

“Mori Condominium” มีความน่าสนใจอะไรบ้าง

ความสุขของผมคือการเดินชมห้องครับที่เค้ามีให้เลือกถึง 7 รูปแบบ มีการแบ่งสัดส่วนการใช้งานมาเรียบร้อยดีนะ ได้ครัวปิดทุกยูนิต รวมถึงได้เฟอร์นิเจอร์ที่ออกแบบมาเข้ากันทั้งหมด

เป็นไม้ยางที่ทำความสะอาดง่าย ทนทาน สวยแบบมินิมอล เข้ากับสไตล์ห้องได้ดีครับ ผมจะพาไปชมห้องตัวอย่าง 4 ห้อง ไปดูกันเลยครับ

เริ่มกันที่ห้อง Type A รูปแบบ Two Bedroom ขนาด 40.7- 40.8 ตร.ม. มีฟังก์ชันและการแบ่งสัดส่วนมาได้น่าสนใจครับ ห้องนี้ได้แอร์ถึง 3 ตัวเลย

จากประตูทางเข้าเดินเข้ามานิดนึงจะเป็นส่วน Living Area ขนาดใหญ่ วางชุดโต๊ะรับประทานอาหารสวยๆ สำหรับ 2-4 คนได้ครับ ซึ่งทางโครงการเค้าก็ให้แบบนี้แถมมาด้วยเลย อย่างที่บอกว่าเฟอร์นิเจอร์ที่เค้าคัดสรรมานั้นเป็นสไตล์มินิมอล Japanese ใครชอบโทนนี้อยู่แล้วก็น่าจะถูกใจ แต่งต่อไม่ยาก

โซนนั่งเล่น มีความกว้างพอจะวางโซฟาและโต๊ะกลางขนาดกลาง-ใหญ่ได้ครับ ซึ่งโซฟา, โต๊ะกลาง และโต๊ะวางทีวีแบบนี้เค้าก็ให้มาด้วย

ดกันเป็นห้องนอนแบบประตูกระจกบานเลื่อนครับ วางเป็นเตียง 3 ฟุต พร้อมตู้เสื้อผ้าได้ ซึ่งเค้าก็แถมฐานเตียงกับราวเก็บเสื้อผ้ามินิมอลแบบนี้มาให้ครับ มีระเบียงโซนซักล้างที่เข้าออกได้จากห้องนี้ครับ

ถัดเข้ามาที่ห้องนอนหลัก ห้องนี้ได้ประตูทึบ เพิ่มความเป็นส่วนตัว อีกฝั่งของห้องวางเป็นเตียง 5 ฟุต พร้อมโต๊ะข้างเตียงแบบนี้ได้สบาย ซึ่งแน่นอนว่าเค้าแถมให้ครบเลยครับ

ส่วนอีกฝั่งทำเป็นตู้เสื้อผ้า หรือจะตกแต่งเป็นโต๊ะวางทีวี ไว้ดูในห้องก็น่าสนใจครับ

ห้องครัวอยู่ติดกับห้องนั่งเล่นฝั่งทีวี บิวท์อินตู้ครัวลายไม้มาให้แล้ว ส่วนใครอุปกรณ์ทำครัวเยอะ กลัวไม่พอ ก็บิวท์ที่เก็บของติดผนังเพิ่มได้ครับ

ห้องน้ำตกแต่งมาครบตามนี้เลยครับ ได้กระจกบานใหญ่สวยงามใช้งานสะดวก

ถัดมาที่ห้อง Type B รูปแบบ One Bedroom Family ขนาด 37.6 – 37.7 ตร.ม. เป็นรูปแบบห้องที่น่าสนใจดีครับ ห้องนี้ได้แอร์ 2 ตัวครับ

เข้ามาเจอกับส่วน Living Area ก่อนครับ หน้าประตูจะตกแต่งเป็นชั้นวางต้นไม้เล็กๆแบบนี้ หรือตู้วางของก่อนเข้า-ออกจากห้อง รวมถึงชั้นวางรองเท้าก็ได้ แล้วยังสามารถวางโต๊ะรับประทานอาหารขนาด 2-4 คนได้สบาย ซึ่งเค้าก็แถมมาด้วยเช่นกัน ฝั่งขวามือเป็นห้องนอน ส่วนประตูฝั่งซ้ายมือเป็นห้องครัวและห้องน้ำครับ

ถัดเข้ามาเป็นโซนนั่งเล่นอยู่ติดกับบานเลื่อนกระจกที่เป็นช่องแสงหลัก ระยะดูทีวีกำลังดีเช่นกัน วางโซฟาและโต๊ะกลางขนาดยาวแบบนี้ แล้วยังเหลือพื้นที่ให้ตกแต่งโคมไฟมินิมอลสวยๆได้ด้วยครับ

ข้างๆ กันเป็นห้องนอนที่ได้ประตูทึบมีความเป็นส่วนตัว ที่ชื่อรูปแบบ Family เพราะเค้าให้เตียงหลักและเตียงรองเข้ามาในห้องนี้แบบนี้เลยครับ ครอบครัวไหนมีลูกยังเล็ก ก็จะสามารถนอนห้องเดียวกันกับลูกได้

ตรงหน้าต่างเค้าติดมู่ลี่มาให้ดูเป็นตัวอย่าง ถ้าใครอยากติดแบบนี้ก็ให้ความเป็นญี่ปุ่น ดูเข้ากับสไตล์ห้องดีครับ

ถัดเข้าไปอีกฝั่งที่โซนห้องครัว ก็จะมีเคาน์เตอร์ครัว มีระเบียงซักล้าง และห้องน้ำที่โซนนี้เช่นเดียวกันครับ ผมชอบพื้นที่ครัวนะ ขนาดใหญ่ดูน่าใช้งานเปิดระบายอากาศสะดวก และห้องน้ำก็อยู่ฝั่งนี้เช่นเดียวกัน เป็นรูปแบบครัวปิดที่ไม่ต้องกังวลเรื่องกลิ่นครับ

ต่อไปเป็นห้อง Type C รูปแบบ One Bedroom ขนาด 31.5 – 32.2 ตร.ม. รูปแบบห้องนี้จริงๆก็จะจัดวางแบบ Open Plan ที่ Living Area กับห้องนอนรวมอยู่ในโซนเดียวกัน เหมือนห้องสตูดิโอที่เพิ่มเติมเรื่องกั้นครัวมาให้ครับ ข้อดีคือพื้นที่ก็จะกว้างใช้ได้เต็มฟังก์ชันเลยครับ

ห้องนี้จะแตกต่างกับห้องก่อนหน้า เข้ามาจะเจอกับโซนครัวก่อน ซึ่งก็ยังได้ครัวแบบปิดอยู่ครับ ตกแต่งชุดครัวให้เรียบร้อย

ถัดมาเป็นห้องน้ำในรูปแบบที่ดูแปลกตาขึ้นมาครับ ซึ่งผมชอบนะ ขนาดค่อนข้างกว้างเลย มีพื้นที่วางของหรืออุปกรณ์ต่างๆได้เยอะมาก เหมาะกับคุณพ่อบ้านแม่บ้านที่เป็นนักสะสมครีมอาบน้ำหรือโลชั่น วางเรียงใช้ไม่ซ้ำแต่ละวันได้เลยครับ

เข้ามาโซน Living Area และห้องนอน มีขนาดกว้างมาก สามารถวางเตียงขนาดใหญ่ โซฟา โต๊ะกลางและชั้นวางทีวีได้สบาย แล้วยังเหลือพื้นที่ให้วางโต๊ะทำงานหรือโต๊ะเครื่องแป้ง ใครเป็นนักอ่านนักสะสม อยากบิวท์ทำเป็นตู้เก็บหนังสือแบบนี้ หรือจะเป็นตู้โชว์ของสะสมก็สวยงามเลยครับ

อีกฝั่งก็เหลือพื้นที่สำหรับตู้เสื้อผ้า และชั้นวางทีวี ระยะห่างแบบสามารถตั้งทีวีจอใหญ่กว่านี้ได้เลยครับ จะนั่งอยู่ที่โซฟาหรือนอนบนเตียง ก็ยังสามารถดูทีวีได้ แบบนี้ไม่ลุกจากที่นอนทั้งวันยังได้เลยนะ ฮ่าๆ ระเบียงเป็นประตูเข้าออกได้ที่โซนนี้ สำหรับซักล้างวางเครื่องซักผ้าครับ

มาถึงห้องสุดท้าย Type D รูปแบบ One Bedroom ขนาด 27.7 – 27.8 ตร.ม. ห้องนี้จะเป็นแบบตอนลึก แบ่งสัดส่วนมาเรียบร้อยเช่นเดียวกันครับ

เข้าไปเจอกับโซนนั่งเล่นก่อน นอกจากพื้นที่นั่งดูทีวีแล้ว ยังเหลือพื้นที่ในการวางโต๊ะทำงานอยู่ข้างๆ กันด้วยครับ

ในส่วนของโซฟา,โต๊ะกลาง, ชั้นวางหน้าทีวี รวมถึงโต๊ะทำงานเค้าก็แถมให้ครบแล้วนะ

ถัดเข้ามาเป็นห้องนอน ที่เค้าทำประตูกระจกกั้นมาให้แล้ว ก็วางเตียง 5 ฟุต และตู้เสื้อผ้าได้พอดี พร้อมหน้าต่างบานยาวรับแสงธรรมชาติ ห้องนี้ก็จะได้ฐานเตียงกับราวแขวนเสื้อแบบนี้ครับ

เข้ามาโซนห้องครัวที่เค้ากั้นประตูทึบ ซึ่งได้เคาน์เตอร์ครัวมาให้เรียบร้อย ห้องน้ำก็เข้าได้จากโซนนี้ครับ มีระเบียงทำเป็นโซนซักล้าง วางเครื่องซักผ้าหรือติดราวตากผ้าได้ครับ

ก็จบไปแล้วครับกับห้องตัวอย่างของโครงการ “Mori Condominium” มีความสวยงามน่าสนใจทีเดียว มีขนาดและฟังก์ชันเหมาะสม แล้วยังได้เฟอร์นิเจอร์ไม้ยางมินิมอลสไตล์ญี่ปุ่นแถมให้ด้วย พร้อมสำหรับเริ่มใช้ชีวิตได้เลยครับ

ต่อไปผมจะนำภาพส่วนกลางมาให้ชมมาบ้าง ตรงกลางของอาคารก็มีสระว่ายน้ำ มี Sunbed รวมถึงโต๊ะเก้าอี้ให้พักผ่อนใต้ร่มเงาต้นไม้ข้างสระว่ายน้ำด้วย ตรงนี้ก็ล้อมรอบไปด้วยสวนพื้นที่สีเขียวที่สามารถออกมาเดินสูดอากาศได้ครับ

ข้างๆกันมีฟิตเนสให้ได้ออกกำลังกายชมวิวสระว่ายน้ำและต้นไม้ใบหญ้าเพิ่มความสุนทรีย์ในการออกกำลังนะ

นี่ก็เป็นภาพรวมอาคารของโครงการ Mori Condominium นั่นเอง สูง 16 ชั้น 1,040 ยูนิต ชั้นล่างมี Shop จำนวน 20 ร้านให้จับจ่ายแบบสะดวกสบายด้วยครับ

อยู่เยื้องกันคือ “Mori Walk” ที่ทำมาเพื่ออำนวยความสะดวกทั้งคนในคอนโดและคนทั่วไป มีทั้งร้านค้า ร้านอาหารจำนวน 23 shop สำหรับลูกบ้านก็จะสามารถจอดรถได้ที่นี่ประมาณ 35% ทั้งในตัวโครงการและบริเวณโดยรอบครับ

ผมจะพาไปชมสิ่งอำนวยความสะดวกรอบๆโครงการอื่นๆอีกครับ อย่าง ‘Cosmo Bazaar’ ห่างจากโครงการเพียง 700 ม. ก็เป็นห้างที่รวบรวมร้านค้า ร้านอาหาร รวมถึงโรงหนังไว้ครบจบที่นี่ครับ

ที่ชั้น 1 ในโซนศูนย์อาหารก็มีของขายหลากหลายทั้งน้ำ ขนม ของหวาน ของคาว พร้อมโต๊ะเก้าอี้คอยอำนวยความสะดวกมากมายครับ Food Court ที่นี่อาหารอร่อย ราคาประหยัด ส่วนใครชอบทำอาหารกินเองหรือซื้อของใช้ต่างๆเข้าบ้าน ที่นี่ก็ยังมี MaxValu ที่มีทั้งของกิน ข้าวของเครื่องครัว เครื่องใช้ครบครันครับ พร้อมทั้ง B2S สำหรับนักอ่าน หรือเด็กนักเรียนนักศึกษาที่ต้องใช้อุปกรณ์เครื่องเขียนด้วย

หรือจะเป็นช็อปแยกออกมาก็มีร้านอาหาร ร้านน้ำ ร้านขนมมากมาย เช่น MK, Starbucks, After you ก็คือไม่ต้องไปห้างเลยในนี้มีหมด

มีร้านอาหารญี่ปุ่นต้นตำหรับแท้จากฮอกไกโดร้านอร่อย อย่าง Tsubohachi (สึโบฮาจิ) ที่มีเมนูอิ่มอร่อยที่หลากหลายให้เลือกด้วยครับ

ที่ชั้น 2 ก็มีร้านอาหาร ร้านค้า หรือร้านกิ๊ฟช็อปอื่นๆ อีก รวมไปถึง Van Station ให้นั่งรอรถตู้สาธารณะ ที่มีหลากหลายเส้นทาง ไม่ว่าจะเป็นไปอนุเสาวรีย์ชัยสมรภูมิ ฟิวเจอร์รังสิต สนามหลวง เดอะมอลล์งามวงศ์วาน และ BTS จตุจักร ซึ่งสะดวกสบายมาก กินให้อิ่ม นั่งให้เย็นก่อนไปต่อครับ

ส่วนที่ชั้น 3 ก็ยังมีโรงหนัง SF Cinema มี Games Center สำหรับเด็กและผู้ใหญ่ ตู้กาชาปอง ตู้ถ่ายรูป ให้เล่นรอหนังฉาย และมีฟิตเนส Jetts 24 ชม. รวมถึงศูนย์บริการภาครัฐและเอกชนด้วยครับ ครบมากในห้างนี้

ถัดออกไปข้างกัน ก็จะเป็นที่ตั้งของ Outlet Square เมืองทองธานี ศูนย์รวมสินค้าคุณภาพมากมายหลากหลายแบรนด์ชั้นนำอย่าง Adidas, Under Armour, Lacoste หรือ Skechers ครับ

ต่อมาที่ Cosmo Walk ที่มี Skywalk เดินเชื่อมต่อถึงกันได้จาก Cosmo Bazaar ก็ยังมี Nike Outlet ขนาดใหญ่, ร้านเสื้อผ้า AIIZ และร้านค้าข้าวของเครื่องใช้ทั้งภายใน/ภายนอกบ้าน ราคาเป็นมิตรอย่าง MR.DIY ด้วยครับ สำหรับ Sky Walk นี้เค้าจะพัฒนาเดินเชื่อมต่อจากรถไฟฟ้าเข้าสู่สิ่งอำนวยความสะดวกในนี้ได้ครอบคลุมทุกพื้นที่เลย

ตรงโถงกลางของ Cosmo Walk สามารถเดินทะลุไปสู่มหาวิทยาลัยศิลปากร เมืองทองธานีได้ด้วยครับ สะดวกสบายถูกใจน้องๆนักศึกษาเลย

ทั้งหมดนี้ก็เป็นส่วนหนึ่งของความน่าสนใจสำหรับโครงการ Mori Condominium นะครับ ถ้าใครอยู่ในช่วงกำลังเริ่มต้นใช้ชีวิต อยากมีที่อยู่อาศัยเป็นของตัวเองในราคาเบาๆ ที่นี่ก็เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่น่าสนใจ เพราะปัจจุบันเมืองทองธานีได้มีการพัฒนามาจนถึงจุดที่มีทุกอย่างเพียบพร้อมแล้วครับ