“Supalai Self-Proved” เมื่อเป้าหมายการขับเคลื่อนองค์กรสีเขียวไม่ใช่เพื่อเป็นที่หนึ่งเหนือใคร แต่เป็นการท้าทายตัวเอง

Supalai Self-Proved

ทุกวันนี้เราอยู่ในโลกที่ทุกอย่างเปลี่ยนไปจากเดิมแล้วครับ ผมเชื่อว่าหลายคนก็คงรู้สึกถึงอุณหภูมิและการเปลี่ยนของฤดูกาลที่ผิดปกติ สาเหตุก็เพราะการใช้ชีวิตของมนุษย์ที่ผ่านมาส่งผลกระทบต่อโลกและสิ่งแวดล้อมมากเหลือเกิน จน UN ได้กล่าวไว้ว่า การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศอย่างน่ากลัวได้เกิดขึ้นแล้ว และนี่เป็นเพียงจุดเริ่มต้นเท่านั้น แม้แต่คำว่ายุคโลกร้อนที่เค้าเตือนนักเตือนหนาก็ได้สิ้นสุดลงไป เพราะยุคโลกเดือด – Global Boiling ได้เริ่มขึ้นมาทดแทน

คำกล่าวนี้ไม่เกินจริงเลย เพราะโลกเรานั้นมีเวลาเหลืออีกไม่ถึง 6 ปีก่อนที่อุณหภูมิโลกจะร้อนขึ้นอีก 1.5 องศาเซลเซียสซึ่งเป็นจุดที่ผลกระทบอันเลวร้ายที่สุดจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศจะ “ไม่อาจย้อนกลับได้” (คำนวณโดย Climate Clock สร้างสรรค์โดยกลุ่มศิลปิน และนักเคลื่อนไหวชาวอเมริกัน โดยมีเกรตา ธันเบิร์กนักเคลื่อนไหวด้านสิ่งแวดล้อมชาวสวีเดนมีส่วนร่วมในช่วงก่อร่างโปรเจกต์) เราทุกคนจึงต้องมีส่วนร่วมช่วยกัน เราจึงได้เห็นเทรนด์ต่างๆ เกิดขึ้นอย่างก้าวกระโดด ไม่ว่าจะเรื่องพลังงานสะอาด, รถยนต์ EV ที่ทุกภาคส่วนหันมาเอาจริงเอาจัง

ไม่เว้นแม้แต่ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่เราได้เห็นบางองค์กรลุกขึ้นมาประกาศจุดยืนการเรื่องการลดคาร์บอน “ศุภาลัย” ก็เช่นเดียวกันครับ เค้าวางแนวทางการทำธุรกิจอย่างยั่งยืนโดยมีสิ่งแวดล้อมเป็นหนึ่งในปัจจัยสำคัญที่ต้องดูแล ด้วยการวางเป้าหมายลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกภายใน 3 ปี เพื่อก้าวสู่การเป็นองค์กรคาร์บอนต่ำ และหนึ่งใน Mission ที่บริษัทดำเนินการแล้วอย่างต่อเนื่อง ก็คือ การบริหารจัดการขยะและวัสดุเหลือใช้ในงานก่อสร้าง หรือ Waste Management ครับ

เค้าทำด้วยวิธีไหนบ้าง? พูดง่ายๆ ก็คือ ต้องทำให้เศษวัสดุเหลือทิ้งให้น้อยที่สุดผ่านวิธี 3 ประการ ได้แก่ “ลดการใช้ – หาวิธีใช้ซ้ำ-และนำกลับมาใช้ใหม่” ผมก็เคยได้ยินคำเหล่านี้ผ่านหูมาบ้าง ฟังดูเหมือนง่าย แต่สำหรับในกระบวนการก่อสร้าง เค้าต้องผ่านวิธีการคิด ร่วมกับการนำนวัตกรรมมาใช้อย่างน่าสนใจที่ผมขอนำมาเล่าให้ฟังครับ

  1. การลดการใช้ ด้วยการต่อท่อแบบใหม่ ซึ่งช่วยลดการใช้ด้วยการคำนวณปริมาณท่อตั้งแต่การเขียนแบบ, เลือกใช้ท่อที่ Made to Order เพื่อให้พอดีกับการใช้ รวมไปถึงการคิดค้นการต่อท่อแบบใหม่ จากเดิมที่ต้องตัดต่อยุ่บยั่บ สิ้นเปลืองวัสดุ บำรุงรักษาก็ยาก เปลี่ยนมาเป็นการใช้ท่อ 4 ทางซึ่งเป็นนวัตกรรมใหม่ ร่วมกับการใช้ท่อดับเพลิงแบบไร้ข้อต่อ เชื่อมั้ยครับว่าเจ้าวัสดุข้อต่อพลาสติกสีฟ้าเล็กๆ นี้ ช่วยลดปริมาณขยะเศษท่อได้หลายร้อยกิโลเมตรเลยครับ และศุภาลัยเองก็ไม่ได้หวงนะ เค้าพร้อมแชร์ Knowhow ให้กับผู้พัฒนาโครงการอื่นๆ เพื่อให้เป็นส่วนหนึ่งในการช่วยโลกไปด้วยกัน
  2. หาวิธีใช้ซ้ำด้วยวัสดุหมุนเวียน จากเมื่อก่อนใช้พาเลทไม้เป็นฐานสำหรับวางอิฐมวลเบา ก็เปลี่ยนเป็นพาเลทพลาสติกที่สามารถใช้ซ้ำได้เรื่อยๆ ซึ่งช่วยลดขยะพาเลทไม้เทียบเท่ากับต้นไม้กว่า 18,157 ต้น
  3. การนำกลับมาใช้ใหม่ อันนี้เป็นการนำเอาเศษวัสดุเหลือใช้มาชุบชีวิตได้หลากหลายรูปแบบเลยครับ ยกตัวอย่างเช่น การนำคอนกรีตที่เหลือมาทำเป็น Subbase ของถนนหนทาง, การนำสายรัดวัสดุก่อสร้างไปสานเป็นตะกร้า หรือการนำเศษอิฐมวลเบาไปทำเป็นกระถางต้นไม้ประหยัดน้ำ

ทั้งหมดนี้ไม่ได้มีอะไรมากำหนดหรือควบคุมหรอกครับ เกิดจากความตระหนักในการเป็นส่วนหนึ่งของสังคมและโลกของตัวองค์กรอย่างศุภาลัยเอง แถมยังไปจนถึงระดับที่ว่าได้ตั้งเกณฑ์มาเพื่อบังคับตัวเองผ่านมาตรวัดปริมาณขยะ “SUPALAI WASTE METER” ด้วย เพื่อพิสูจน์ความมุ่งมั่นในการลดขยะจากการก่อสร้างไม่ให้เกินมาตรฐาน 3,300 ตัน ต่อพื้นที่ 110,235 ตร.ม. แล้วเอาไปตั้งไว้ตามไซต์ต่างๆ ของศุภาลัยในอนาคต โดยมีที่แรกที่เริ่มไปแล้วก็คือที่โครงการศุภาลัย ปาร์ค เอกมัย-พัฒนาการที่ผมนำรูปมาฝากนั่นเองครับ

นี่คือส่วนหนึ่งของภารกิจการมุ่งเข้าสู่องค์กรคาร์บอนต่ำของศุภาลัย ที่ไม่ใช่เพื่อแข่งขันกับใคร แต่เป็นการท้าทายตัวเอง และผมก็มองว่าจะเป็นอีกหนึ่งการจุดประกายให้ธุรกิจต่างๆ ลุกขึ้นมาตั้งเป้าหมายเพื่อโลกใบนี้ด้วยเช่นเดียวกัน ต่อจากนี้ใครที่ผ่านไปหน้าไซต์ของศุภาลัยแล้วเห็นเจ้า Waste Meter ก็จะได้ไม่ต้องแปลกใจ หรือถ้าอยากเห็นภาพในสิ่งที่ผมเล่าให้ฟัง ขอชวนไปชมภาพยนตร์โฆษณา SUPALAI Self-Proved กับมัลติเวิร์สของน้องเกรต้า นามสกุลแฮมเบิร์ก (เห็นแล้วนึกถึงแฮมเบอร์เกอร์) และเรื่องราวของสิ่งต่างๆ ที่ศุภาลัยทำเกี่ยวกับสังคมและสิ่งแวดล้อม ได้ที่นี่ครับ https://srangdee.supalai.com/selfproved/

เรื่องราวที่น่าสนใจ

Follow Us