The Origin รัชดา-ลาดพร้าว ใกล้รถไฟฟ้า Interchange 2 สาย เพียง 25 เมตร ตอบโจทย์ Gen Z

The Origin รัชดา-ลาดพร้าว

The Origin : สวัสดีครับ ผมเป็นคอนโดน้องใหม่จาก “Origin Property” เพิ่งคลอดออกมาในปี 62 นี้เองครับ คุณพ่อคุณแม่บอกว่าผมน่าจะถูกใจลูกค้าเจนใหม่ อย่างวัยเพิ่งเริ่มทำงาน หรือต้องการซื้อคอนโดมิเนียมไว้เป็นทรัพย์สินแรก เพราะผมมีหน้าตาและฟังก์ชั่นที่ถูกใจ แถมอยู่ใกล้แนวรถไฟฟ้า ในราคาที่จับต้องได้… เริ่มต้นที่ราวๆ 1-2 ล้านบาทเองครับ

ผม: โถพ่อหนุ่ม แล้วตกลงจะไปอยู่ทำเลไหนดีครับ

The Origin: ผมไม่ได้มาตัวคนเดียวนะ มีหลายพี่น้องที่กำลังคลอดตามกันมาอีกเรื่อยๆ นะครับ กระจายตัวกันไปอยู่ใน 6 ทำเลด้วยกัน ก็ทั้ง สุขุมวิท พหลโยธิน ลาดพร้าว รามอินทรา รัชดา และรามคำแหงที่เพิ่งเปิดพรีเซลไปพร้อมยอดขายพุ่งฉลุยด้วยครับ (ยกมือป้องปากด้วยเสียงกระซิบ) 

และนี่ก็เป็นจุดเริ่มต้นบทสนทนาของผมกับเพื่อนมโนในครั้งนี้ครับ ฮ่าๆ เห็นว่าน่าสนใจเลยอยากพาชาว Living Sneak Peek มาทำความรู้จักกับ The Origin โครงการต่อไปที่กำลังจะเกิดขึ้นในย่านบนถนนรัชดาแห่งนี้ กับโครงการที่มีชื่อว่า “The Origin Ratchada-Ladprao” (ดิ ออริจิ้น รัชดา-ลาดพร้าว) โครงการ Low Rise ใกล้รถไฟฟ้า Interchange 2 สายน้ำเงิน สายสีเหลือง เพียง 25 เมตรครับ

เอาหล่ะครับ (เสียงรัวกลอง) ไหนๆ ก็เกริ่นกันมาสะขนาดนี้แล้ว (เสียงรัวกลองค่อยๆ ดังขึ้นๆ) ก็จะรอช้าอยู่ใย เราไปแอบดูโครงการ “The Origin Ratchada-Ladprao” กันดีกว่าคร้าบบ !! 

โครงการ THE ORIGIN ตั้งอยู่ที่ลาดพร้าว 23

การเดินทางมาที่นี่ คือ ถ้าวิ่งมาทางเส้นลาดพร้าวตรงมาเรื่อยๆ ผ่านแยกรัชดา-ลาดพร้าว ก็เลี้ยวซ้ายเข้าซอยแรกเลยครับ ตอนนี้ถ้าใครอยากแวะเข้าไปชมห้องตัวอย่าง เข้าซอยไปไม่ถึงร้อยเมตรก็จะเจอ Sales Gallery อยู่ทางซ้ายมือแล้ว แต่ตัวโครงการจริงๆ ถ้านับจากปากซอยก็จะอยู่ถัดเข้าไปอีกประมาณ 200 เมตรครับ (กลางค่ำกลางคืนโบกพี่วินได้ครับ ปากซอยมีตลอด) เพราะซอยนี้ขับรถผ่านกี่ทีก็เห็นผู้คนยืนรอพี่วิน รอที่รักมารับกัน อยู่ปากซอยคิวยาวไปถึงสะพานลอยตลอด ด้วยความที่ซอยนี้สามารถลัดเลาะออกไปได้ทั้งถนนรัชดาฯ, เสนาฯ, ลาดพร้าว-วังหิน ซึ่งเป็นแหล่งรวมของอร่อยย่านลาดพร้าวก็ว่าได้ แถมตรงนี้ยังมีสะพานลอยที่สามารถเดินข้ามแยกเพื่อไปขึ้น MRT สถานีลาดพร้าวในระยะ 450 เมตรได้อีก แต่ที่สะดวกที่สุดก็คือในอนาคตก็จะมีรถไฟฟ้าสายสีเหลือง (ลาดพร้าว-สำโรง) สถานีรัชดามาตั้งอยู่แค่ระยะปลายจมูก (ห่างประมาณ 25 เมตร) กลายเป็นจุด Interchange ให้เปลี่ยนไปสายสีน้ำเงินได้ด้วยครับ ส่วนการใช้รถใช้ถนนเส้นนี้ก็สะดวก

โครงการอยู่เลยแยกรัชดา-ลาดพร้าวเข้ามานิดเดียว ใครที่มีกิจธุระอยากวิ่งเส้นไหน ก็คิดรอไว้เลย เพราะแยกนี้สามารถเลือกวิ่งไปออกถนนเส้นหลักๆ ได้อีกหลายเส้นทาง ทั้งไปรามฯ หัวหมาก บางกะปิ รัชโยธิน ห้าแยกลาดพร้าว หรือพระราม 9 ซึ่งทำเลแถวนี้หลายคนทราบดีอยู่แล้วว่ามีสิ่งอำนวยสะดวกค่อนข้างครบ ทั้งสวนลุมไนท์รัชดา เซ็นทรัลลาดพร้าว ยูเนี่ยนมอลล์ ม.ราชภัฎจันทรเกษม ศาลอาญา หรือรพ.เปาโล ฯลฯ

คอนโดมิเนียมแบบ Low Rise

ที่นี่เป็น คอนโดมิเนียมแบบ Low Rise จำนวน 8 ชั้น 1 อาคาร มีห้องพักอาศัยด้วยกันทั้งหมด 208 ยูนิต (+1ร้านค้า) คืออยู่กันได้สบายๆ ไม่วุ่นวายกับจำนวนคน ส่วนที่จอดรถเค้าให้มาทั้งแบบธรรมดาและ Auto Parking รวมกันคิดเป็น 61% (รวมซ้อนคัน) เมื่อเทียบกับโครงการทั่วไปในระยะใกล้รถไฟฟ้าแบบนี้ถือว่าไม่น้อยเลยครับ แบบห้องที่นี่เค้ามีหลาย Layout ให้เลือก เริ่มตั้งแต่ 1Bed ขนาด 24.5-33 ตร.ม., 1Bed Plus ขนาด 32-36 ตร.ม. และ 2 Bed ขนาด 50-54.5 ตร.ม. แถมยังมี 1 Bed Smart Walk in Closet ขนาด 26.5 – 27.5 ตร.ม. ที่เพิ่งเริ่มมีในแบรนด์ The Origin เท่านั้น สรุปง่ายๆ แบบนี้ครับ

  • อยู่คนเดียวแต่ของเก็บเยอะ เลือก 1 Bedroom แบบ Smart Walk in Closet อันนี้เป็น Layout ใหม่ล่าสุด มีครัวปิดอยู่ทางเข้า ส่วนห้องนอนและโซฟาอยู่เชื่อมกันเป็นแนวยาวติดกับหน้าต่างบานใหญ่ และด้านในได้ Smart Walk-in closet ยาวพร้อมตู้บิวท์อินเก็บของตลอดแนว ต้องมาดูเอาเองเพราะมันใหญ่จุใจ โครงการจัดทำมาให้แล้วเรียบร้อยคับ
  • อยู่คนเดียวอยากได้ห้อง Layout มาตรฐาน เปิดไปเจอส่วน Living ก่อนแล้วค่อยไปเจอห้องนอน ก็จิ้ม 1 Bedroom ปกติ ได้ครัวปิดติดกับระเบียง ระบายอากาศได้ง่าย ส่วนห้องนอนและตู้เสื้อผ้าได้ขนาดมาตรฐาน
  • อยากได้ห้องใหญ่เผื่ออนาคต จิ้มไป 1 Bed Plus มีพื้นที่ห้องอเนกประสงค์ให้อยู่ติดระเบียง จะเอาไปทำห้องทำงาน อ่านหนังสือ หรืองานอดิเรกก็ตามถนัด แถมห้อง Type นี้เป็นต้นไปยังได้กระจก Smart Mirror ในห้องน้ำด้วยแหละ
  • ส่วนใครครอบครัวขยายอยากได้ห้องรองรับ ก็จัด 2 Bed ไปเลย ได้ครัวปิด และแยกห้องนอนเป็นสัดเป็นส่วนพร้อม 2 ห้องน้ำด้วยครับ

ส่วนกลางแบบจัดเต็ม

สำหรับพื้นที่ส่วนกลางและบริการต่างๆ ที่เค้ามีให้ก็ไม่น้อยหน้ามีทั้งหมด 4 ชั้น เริ่มจากชั้น 1 มี Visitor Lobby Hall, 24 hours Co-Working Space, Self Storage และ Mail Box & Smart Locker ขึ้นมาที่ชั้น 2 มี Lounge, ฟิตเนส และสระว่ายน้ำระบบน้ำเกลือ ส่วนที่ชั้น 3 มีทั้ง Meeting Room, 24 hours Co-Working Space พร้อม Office Supply, ห้องสมุด, ห้อง Multi-function studio ใช้ประโยชน์ได้หลายอย่าง เช่น สตูดิโอถ่ายรูปสินค้า และสุดท้ายที่ Parking Building มี Rooftop Garden และ Yoga Area นอกจากนี้โครงการยังจัดระบบ Home Automation ที่สามารถเชื่อมต่อง่ายๆ ผ่าน Application “Origin Connect” ตัวช่วยที่จะเข้ามาเพิ่มความสะดวกสบายต่อการอยู่อาศัยมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการควบคุมระบบไฟ แอร์ หรือ Smart Mirror … ใช่ครับ โครงการนี้ให้กระจกวิเศษดูหนังฟังเพลง เล่นอินเตอร์เนตได้ง่ายๆ แค่ปลายนิ้วสัมผัส รวมถึงประตูแบบ Digital Door Lock และ 1 Year Hotel Service On demand* บริการทำความสะอาดห้องเดือนละ 1 ครั้ง ตลอด 1 ปีด้วยครับ ใครที่ดูแลห้องสำหรับปล่อยเช่าก็สะดวกมากขึ้นนะ เป็นความสบายที่จะเกิดขึ้นภายใต้แบรนด์ The Origin ด้วยบริการดีๆ ที่เข้าใจในตัว GEN Z อย่างแท้จริง และทำให้การใช้ชีวิตของมนุษย์คอนโดเป็นเรื่องที่ “ง่ายขึ้น” ครับ

ตอนนี้ใครที่สนใจก็เข้าไปดูห้องตัวอย่างกันได้แล้วเค้ามีทั้งหมด 3 แบบด้วยกัน คือห้อง 1 Bedroom ขนาด 27 ตารางเมตร 2 แบบ ซึ่งเป็น Layout ที่แตกต่างกัน ในรูปแบบ Smart Walk-in Closet กับ Layout มาตรฐาน กับอีกห้องเป็นแบบ 1 Bedroom Plus ขนาด 34 ตารางเมตรครับ มาถึงตรงนี้คงอยากจะรู้เรื่องราคาแล้ว เริ่มต้นที่ 2.29 ล้านบาท หรือเป็นราคาเฉลี่ย(ทั้งโครงการ)อยู่ที่ประมาณ 110,000 บาท/ตร.ม. ครับ 

เอาล่ะ ปิดท้ายด้วยกำหนดการ เค้าจะเปิดจองรอบพิเศษ VVIP ทั้ง The Origin ลาดพร้าว และ The Origin รัชดา-ลาดพร้าว พร้อมกัน (ดูห้องได้ที่สำนักงานขายเดียวกันนั่นแหละ) ในวันที่ 17 ส.ค.นี้ สิ่งสำคัญคือ **เฉพาะผู้ที่มี “Gift Voucher” เท่านั้น ถึงจะได้เข้าจอง และรับราคาพิเศษส่วนลดสูงสุดถึง 300,000.-* บาทครับ ดังนั้นอย่าลืมไปรับ Gift Voucher ล่วงหน้าที่ >> Sales Gallery พิกัด https://bit.ly/2SCZrNm กันทุกคนน้า

ถ้าพลาดรอบ exclusive ก็ไปรอจองรอบทั่วไปเลยในวันที่ 31 ส.ค. นี้ครับ

แฟนเพจ Living Sneak Peek ที่สนใจก็คลิกเข้าไปลงทะเบียนรับข้อมูลโดยตรงจากโครงการได้ที่นี่ >> https://bit.ly/2Z3E7TO 

คลิกเเล้วก็ตามเข้าไปดูห้องตัวอย่างพร้อมๆ กันเลยคร้าบบบ 

#TheOrigin #จัดจ้านย่านรัชดาลาดพร้าว #สู้ๆนะ 
#LivingSneakPeek

The Origin รัชดา-ลาดพร้าว

เริ่มแรกเริ่มกับห้องแบบ 1 Bedroom ขนาด 27 ตารางเมตร ซึ่ง Layout นี้ค่อนข้างมีความลงตัวทีเดียวครับ จะมีส่วนของห้องนั่งเล่นรอรับเรากลับบ้านพร้อมห้องน้ำอยู่ด้านนอก และครัวติดระเบียงช่วยให้อากาศถ่ายเท หมดกังวลเรื่องกลิ่นฟุ้งเข้าห้องนอนตลบอบอวน

โครงการนี้เค้าให้แบบ Fully Fitted นะครับ ดังนั้นเมื่อซื้อห้องแล้วเราก็จะได้ชุดครัวพร้อมเตาไฟฟ้าและที่ดูดควัน สุขภัณฑ์ ตู้เสื้อผ้า ฐานเตียง และชั้นวางทีวี บิวท์อินไว้ให้เรียบร้อย ระยะความสูงของเพดานห้องอยู่ที่ 2.5 เมตร และไม่ได้ดรอปฝ้าตามภาพนะครับ พื้นเป็นลามิเนตหนา 8 มิลลิเมตร ผนังได้เป็นฉาบเรียบทาสี และได้แอร์ทั้งหมด 2 เครื่องครับ

หลังจากออกไปเดิน Shopping ที่เซ็นลาดฯ ยูเนี่ยน กลับคอนโดมาเหนื่อยๆ ไม่ต้องกลัวว่าจะต้องมานั่งเร่งแอร์เบอร์แรง รอให้ลมเย็นๆ เป่าหน้า เป่ารักแร้ที่กำลังหมาดได้ที่ เพราะเค้ามีระบบ Home Automation ที่จะมาช่วยสั่งการปิดไฟ เปิดแอร์ล่วงหน้าได้ง่ายๆ ผ่านแอพ Origin Connect ครับ ซึ่งก็ยังสามารถใช้งานด้านอื่นๆ ได้ด้วย อย่างบริการแม่บ้าน เเจ้งซ่อม หรือแจ้งปัญหาต่างๆ เป็นต้น (เปิดให้โหลดแล้วนะ ลูกบ้านออริจิ้นโหลดกันยัง)

ชั้นวางทีวีที่โครงการบิวท์อินไว้ให้ มีในส่วนของตู้เก็บของเข้า Set กันมาด้วยนะครับ ซึ่งตรงนี้แหละที่เราจะได้จัดวางรองเท้า เรียงกองหนังสือเล่มโตที่เพิ่งไปเหมามาจากซีเอ็ด หรือของใช้แกดเจ็ตต่างๆ ที่เพิ่งถอยมาสดๆ ร้อนๆ เตรียมพร้อมหยิบจับใช้ได้สะดวก หาง่าย และยังช่วยให้ห้องดูมีระเบียบขึ้น

ระหว่างที่รอละครมาก็เข้ามาอาบน้ำชำระร่างกายให้หอมสดชื่นกันก่อน ห้องน้ำได้ตามแบบนี้เลยครับสุขภัณฑ์จาก American Standard ก๊อกน้ำและฝักบัวจาก Hafele พร้อมมีฉากกั้นเปียกแห้งมาให้ ส่วนพื้นและผนังก็ได้ลายตามห้องตัวอย่างเลย ซึ่งในส่วนบริเวณ Shower ก็จะมีลวดลายละม้ายหินอยู่ในส่วนของผนัง ทำให้ห้องน้ำไม่น่าเบื่อจนเกินไป

อาบน้ำแต่งตัวเสร็จเรียบร้อยก็ได้เวลาอาหารว่าง (รอบดึก) ซึ่งเป็นพฤติกรรมของตัวผมเอง ฮ่าๆ

ห้องครัวที่ได้เป็นครัวปิดนะครับ เคาน์เตอร์ครัวได้ทั้งด้านบนและล่าง หน้าบานเป็นกระจกสีดำ ก๊อกน้ำและซิงค์ล้างจานเป็นของ Hafele ซึ่งครัวเค้าก็ไม่แคบจนเกินไป สามารถเข้ามาทำ Egg Benedict ตอนเช้า พร้อมอบขนมปังหอมกรุ่นเตรียมให้คุณศรีภรรยารับประทานก่อนไปทำงานได้ หรือคุณศรีภรรยาจะเดินเข้ามาร่วมด้วยช่วยกันสร้างสรรมื้อเช้าแสนอร่อยก็ยังมีที่เหลือๆ แถมครัวยังอยู่ติดระเบียงทำให้เปิดรับลม เปิดระบายกลิ่นอาหารออกไปด้านนอกได้สบายๆ เลยครับ

เมื่อห้องน้ำอยู่ตรงข้ามกับครัว พื้นที่บริเวณนี้จึงสามารถทำเป็นโต๊ะเครื่องแป้ง หรือติดตั้งชั้นวางของไว้ได้แบบพอดีๆ

หลังจากดูละครจบไปพร้อมๆ กับไอศกรีมควอทใหญ่ หนังท้องตึงได้ที่หนังตาก็หย่อนในทันที … เดินเข้าห้องนอนพร้อมเลื่อนประตูปิดกั้นห้องได้เลย

ตู้เสื้อผ้าเค้าเตรียมมาให้แล้วนะครับ ไม่ต้องไปเดินหาซื้อให้เหนื่อย เอาเวลาไปเดินเลือกเสื้อผ้าชิคๆ คูลๆ มาใส่ให้เต็มตู้กันไปเลยดีกว่า

เนื่องจากตู้เสื้อผ้าที่เค้าให้มาค่อนข้างมีขนาดใหญ่อยู่ครับ ทำให้พื้นที่ด้านหน้าตรงนี้ก็จะเหลือเฟือพอให้ หยิบชุดสูท ชุดเดรสมายืนเลือกยืนลองได้เต็มที่ จากนั้นก็จะเป็นตำแหน่งของเตียงนอนขนาด 5 ฟุต และริมสุดเป็นหน้าต่างบานใหญ่สะใจ ที่มีบานกระทุ้งมาให้เปิดรับลมได้ 1 บาน

ดังนั้นห้อง 1 Bedroom ขนาด 27 ตารางเมตรนี้ ก็น่าจะเหมาะกับใครที่ชอบความเป็นสัดส่วนของแต่ละพื้นที่การใช้งาน ไม่ว่าจะเป็นห้องนอนที่จะกั้นปิดเพื่อความเป็นส่วนตัว หรือเลื่อนเปิดเพื่อให้ห้องกว้างขึ้น พร้อมต้อนรับเพื่อนๆ พี่ๆ ที่มาเยี่ยมเยียน ยิ่งถ้าวันไหนต้องทำกับข้าวจัดหนักหน่อย ห้องครัวก็เป็นครัวปิด ช่วยกันกลิ่นเข้ามารบกวนด้านใน และอยู่ติดระเบียงเปิดระบายอากาศออกไปได้ ข้าวของเครื่องใช้พื้นฐานโครงการก็บิวท์อินมาให้แล้ว เหลือแค่ซื้อเฟอร์นิเจอร์สีสวยตามชอบ และตกแต่งธีมที่ใช่ก็เข้าอยู่ได้อย่างสบายใจแล้วครับ

มาต่อกันที่ห้องขนาดเดียวกันคือ 1 Bedroom 27 ตารางเมตร แต่เปลี่ยนปรับสลับ Layout ให้มี Smart Walk-In Closet เพิ่มขึ้นมา ครัวยังได้เป็นครัวปิดเช่นเดียวกับแบบแรก แต่จะปรับมาให้พื้นที่ห้องนั่งเล่นกับห้องนอนเชื่อมกันแทน อารมณ์เหมือนห้อง Superior ในโรงแรม ห้องนี้ตอบโจทย์คนของเยอะได้ดีสุดๆ จะเป็นยังไงตามไปดูกันครับ

ชุดครัวมีเตาไฟฟ้าและฮูทดูดควันติดตั้งมาให้เรียบร้อนะครับ

ตู้ชุดนี้ก็ได้เช่นกัน เนี่ย แค่นี้ก็เริ่มภารกิจเก็บของของเราได้แล้วจากที่นี่ หน้าที่เราก็แค่เลือกซื้อตู้เย็นที่สามารถเข้าช่องนี้ได้ฮะ มีชั้นมีช่องให้เก็บของพอสมควร ตั้งไว้ตรงนี้ก็ดูหาของง่ายดีด้วยครับ

อย่างที่บอกว่าห้องนั่งเล่นกับห้องนอนเชื่อมต่อกัน ข้อดีของห้องแบบนี้ก็คือไม่ต้องเปิดแอร์สองเครื่องครับ ฮ่าๆ อ่ะล้อเล่น คืออันที่จริงห้องแบบนี้เหมาะกับคนที่ไม่ได้รับแขกเป็นหลัก แต่เน้นการใช้ชีวิตผ่อนคลายยภายในห้อง เพราะมันจะได้พื้นที่พักผ่อนกว้างขวางเชื่อมต่อกัน ติดทีวีจอใหญ่หน่อยก็นั่งดูนอนดูหนังได้ตามสะดวก เวลาคิดงานไม่ออก ก็ลุกขึ้นไปยืนมองวิวด้านนอก มองสีเขียวของต้นไม้ ก็อาจจะช่วยให้สมองโล่งขึ้นได้ พูดง่ายๆ ว่าสามารถปรับเปลี่ยนอิริยาบถ เดินเข้าออกได้ตามสะดวก แถมพอไม่มีอะไรมากั้น ห้องก็ดูกว้างขึ้นด้วยครับ

พื้นที่ยาวๆ แบบนี้ ก็เลือกเฟอร์นิเจอร์ตามการใช้งานได้เลย โซฟาถ้าไม่อยากได้ไซส์ใหญ่ ก็ลดขนาดลงแล้วเพิ่มโต๊ะทำงานพร้อมเก้าอี้ตัวเล็กๆ เข้าไปได้

ตรงหัวเตียงมีปลั๊กสำหรับเสียบสาย USB ให้ด้วยนะครับ เหมาะมากสำหรับคนชอบเล่นโทรศัพท์ก่อนนอน ไม่ต้องกุลีกุจอวิ่งหาหัวชาร์จ จับสายจิ้มเข้า Socket ได้เลยสบายๆ

อยู่ห้อง 1 Bed ใครว่า Walk-In Closet ต้องเล็กๆ แคบๆ พื้นที่ตรงนี้ Smart Walk in Closet เค้ายกให้หมดเลยครับ ทั้งตู้ ทั้งโต๊ะเครื่องแป้ง รวมไปถึงBeauty Mirror กระจกไฟสวยๆ บานนี้ด้วย ตู้เสื้อผ้าขนาดมหึมา จัดของเก็บได้จุใจเลย ช่องปลั๊กก็เตรียมมาแบบไว้ทุกมุม ด้านบนสำหรับเสียบไดร์เป่าผม และด้านล่างสำหรับเสียบ iRobot Clenning เป็นโซนนี้นี่แหละ ที่เป็นจุดเด่นของ Layout นี้ครับ

มีช่องให้ใส่โลชั่น สเปรย์ น้ำหอม และสารพัดเครื่องประทินผิวทั้งของคุณผู้หญิงและคุณผู้ชาย

ยิ่งถ้าติดกระจกบานใหญ่แบบส่องได้หัวจรดเท้าแบบนี้แล้ว ห้องนี้คงจะเป็นห้องที่คุณสาวๆ หมดเวลาไปกับมันมากที่สุดเลยก็ว่าได้

ห้องสุดท้ายเป็นแบบ 1 Bedroom Plus ขนาด 34 ตารางเมตรครับ

เราจะได้ตู้ด้านหน้าที่เค้าทำให้มาเหมือนๆ กัน ทุก Type เพื่อความสะดวกในการเก็บของที่เราหยิบจับออกไปใช้บ่อยๆ หรือเก็บรองเท้าได้สบายๆ

ของทุกอย่างเราก็จะได้ตามเดิม เพิ่มเติมคือมีห้องอเนกประสงค์เพิ่มเข้ามา คิดรอไว้เลยว่าจะทำเป็นห้องอะไร ห้องทำงานก็ดูส่วนตัวดี ห้องแต่งตัวก็เหมาะกับคนเสื้อผ้าเยอะๆ ห้องนอนเด็กก็ได้ถ้ามีสมาชิกเพิ่ม มีประตูกั้นแบ่งพื้นที่ให้ชัดเจนแล้วครับ

ห้องนี้อยู่ติดกับระเบียง ทำให้สามารถเปิดประตูรับลมได้ก่อนใคร แถมติดแอร์มาให้ด้วยนะ

ห้องนั่งเล่นขนาดกำลังดี ถ้าบ้านไหนอยากให้ห้องโล่งๆ ก็เลือกโต๊ะกาแฟตัวเล็กลงมาหน่อย หรือลองปรับโซฟาเล็กลงนิด ก็สามารถวางโต๊ะทานข้าวเล็กๆ ได้อยู่นะครับ ส่วนชั้นวางของถ้ายังเก็บได้ไม่จุใจ ก็บิวท์ชั้นเพิ่มตรงผนังทั้งฝั่งซ้ายฝั่งขวาได้อีกนะ

Type นี้ถูกใจสายคลีน หรือแม่บ้านกระทะเหล็กเค้าแหละ เพราะได้เนื้อที่ครัวสวยๆ เต็มเม็ดเต็มหน่วย

ทรงเคาน์เตอร์ครัวเป็นรูปตัว L ล้างซ้าย หั่นขวา ตู้เก็บเครื่องปรุง อุปกรณ์ Bakery อยู่ด้านบน และตรงนี้เป็นตำแหน่งวางเครื่องซักผ้าด้วยครับ

ห้องน้ำเป็น Double Access เข้าได้ทั้งจากห้องนั่งเล่นและห้องนอน แบบนี้ก็ง่ายต่อการใช้งานทั้งคนหลับ และคนนอนดึกครับ 

นี่ความเก๋อยู่ตรงนี้ สำหรับห้องขนาด 34 ตารางเมตรขึ้นไปจะได้กระจก Smart Mirror นะครับ แค่ใช้ปลายนิ้วสัมผัส จิ้มเลือกเลย จะดู Netflix ละครช่อง 3 ย้อนหลัง ท่อง Facebook ก็ใช้งานได้หมดเค้าตามมาหาถึงในห้องน้ำแล้ว ปลั๊กใช้งานตรงนี้ก็มีช่อง USB ให้ด้วย ถูกใจชาวโซเชียลแน่นอน

หรือจะตามไปดู Living Sneak Peek Channel ด้วยกันก็ได้คร้าบ เทสต์ดูแล้ว เข้าได้ ฮ่าๆ

ต่อมาในห้องนอน พื้นที่ปลายเตียงเหลือเยอะพอให้ตั้งโต๊ะเครื่องแป้ง หรือบิวท์ชั้นหนังสือขึ้นมาได้เลยครับ แถมกระจกบานเลื่อนนี่ก็ใหญ่มาก รับแสงสว่างเข้าห้องมาได้ดีเลยทีเดียว และด้านข้างก็ยังเหลือที่ให้วางโต๊ะหัวเตียง หรือโคมไฟสวยๆ ตั้งพื้นได้อีกครับ

ถ้าใครต้องการความเป็นส่วนตัว อยากมีห้องที่สามารทำได้มากกว่าการนอน ไม่ว่าจะจบสายไหน หรือทำอาชีพไหน ก็สามารถเนรมิตห้องอเนกประสงค์ให้กลายเป็นเพื่อนที่ส่วนตัว หรือสร้างโลกส่วนตัวของเราขึ้นมาอีกใบได้ครับ ทุ่มเทและใช้พลังไปกับห้องนั้นแล้วก็เดินไปไม่กี่ก้าวแล้วเอนตัวลงนอนให้ร่างกายได้ชาร์จพลัง แล้วรอให้พระอาทิตย์ขึ้นจะได้ตื่นมาดูท้องฟ้าสวยๆ ยามเช้าได้อย่างเต็มตา พร้อมรับสิ่งใหม่อย่างสดใสได้ในทุกวันครับ

ก่อนจะจากกัน พาดูส่วนกลางสักเล็กน้อยครับ โดยส่วนกลางจะเริ่มตั้งแต่ชั้น 1 ไปจนถึงชั้น 3 โดยชั้น 1 ก็จะเป็น Lobby, มี Co-working space, self-storage เป็นต้น สระว่ายน้ำ ฟิตเนสและเลาจน์จะอยู่ชั้น 2 และชั้น 3 ก็จะเป็นห้องสมุด ห้องประชุม แถมมีห้อง Studio สำหรับถ่ายภาพมาให้ด้วยนะ เหมาะกับคนรุ่นใหม่ที่ชอบขายของออนไลน์เลยครับแบบนี้ บริเวณชั้น 2 นอกจากจะเป็นสระว่ายน้ำแล้วก็ยังสามารถเดินเชื่อมไปยังพื้นที่สวน ซึ่งเป็นส่วน Roof Top ของอาคารจอดรถระบบ Auto Parking ด้วยครับ ดังนั้นก็ไม่ต้องกลัวว่าอยู่ในเมืองขนาดนี้จะไม่มีต้นไม้สีเขียวๆ ให้ชื่นชมครับ

โครงการนี้ก็เรียกว่าจัดทุกอย่างมาให้ครบครัน ทำให้การเริ่มต้นชีวิตในครอบครัวแยกนั้นเป็นไปได้ง่ายมากขึ้น โดยเฉพาะสำหรับวัยเพิ่งทำงานที่ไม่ค่อยมีเวลา เพราะโครงการจัดเฟอร์นิเจอร์ชิ้นหลักมาให้พอสมควร มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบ และมีระบบ Application ที่ช่วยจัดการความยุ่งยากให้เราไปแล้วหนึ่งเปลาะ ทั้งยังเดินทางสะดวกเพราะใกล้รถไฟฟ้านิดเดียว ในราคาเริ่มต้น 2.29 ล้านบาท ใครที่ทำงานเส้นรัชดา หรือลาดพร้าวตอนต้น อยากได้คอนโดใหม่ในราคาจับต้องได้ ลองเข้ามาดูโครงการนี้กันก่อนตัดสินใจนะครับ