Venio สุขุมวิท 10 มุมสงบกลางใจเมือง พร้อมสวนขนาดใหญ่ข้างบ้าน

แล้ววันนี้แว่นก็ได้เติมพลังด้วยการได้ออกไปชมโครงการสวยๆ ที่สร้างเสร็จอีกรอบ  ด้วยความที่เราเป็นคนชอบแอบไปดูโน่นนี่ตามประสา ก็หวังจะได้เห็นไอเดีย ได้แรงบันดาลใจใหม่ๆ ในการใช้ชีวิตว่า เอ้อ ยังมีที่อยู่อาศัยน่าสนใจที่ทำให้เราอยากมาอยู่อีกเนอะ เพราะงั้นแว่นก็จะฟินทุกครั้งที่ได้ไปดูโครงการต่างๆ ถ้าไปโครงการเปิดใหม่ ก็คงต้องใช้จินตนาการในการสร้างภาพในหัวว่าของจริงจะเป็นยังไง สวยเหมือนภาพเรนเดอร์มั้ย แต่ถ้าได้มาโครงการที่สร้างเสร็จแล้ว มันคือความจริงทุกอย่างที่จะได้เห็นด้วยตาตัวเอง เป็นห้องจริง วิวจริงที่จับต้องได้ แต่แหงล่ะ บางคนอยากได้ราคาแรกก็ต้องซื้อเอาตอนเห็นแค่รูป โมเดล หรือห้องตัวอย่างนี่แหละ แต่สำหรับบางคนที่ไม่ได้เน้นเรื่องการลงทุน ก็คงสบายใจที่จะได้เห็นของจริงว่าจะสู้ภาพตอนขายได้รึเปล่า

พิกัดที่จะพาไปชมวันนี้คือ สุขุมวิทซอย 10 ซึ่งแทบจะอยู่ตรงกลางระหว่าง BTS สองสถานี คือ นานา (650 ม.) และอโศก (750 ม.) ครับ ซอยนี้เป็นซอยไม่ได้กว้างมาก แต่เพียงพอสำหรับรถวิ่งสวนกันได้ ความพิเศษคือ บริเวณท้ายซอยที่เป็นที่ตั้งโครงการ อยู่ติดกับพื้นที่ของโรงงานยาสูบซึ่งเปิดให้เดินเชื่อมต่อไปยังสวนเบญจกิตติได้สบายๆ ส่วนรถยนต์นี้เค้าเปิดประตูเฉพาะช่วง Rush Hour สวนเบญจกิตตินี่ถือเป็นหนึ่งในปอดคนกรุงเทพฯ ไม่กี่แห่ง ถ้าพัฒนาครบทุกระยะก็จะมีพื้นที่ทะลุ 400 ไร่กันไปเลย แถมยังมีเส้นทางจักรยานลอยฟ้าเชื่อมต่อไปยังสวนลุมพินีอีกครับ คนรักการวิ่ง การปั่นจักรยานจะมีสวนใหญ่ให้ชื่นใจใกล้บ้านกันไปเลย

โครงการ Venio สุขุมวิท 10 สูง 8 ชั้น รวม 162 ยูนิต ตั้งอยู่บนพื้นที่ประมาณไร่เศษ ส่วนที่เป็นชั้นพักอาศัยก็จะเริ่มที่ชั้น 2 – ชั้น 8 ส่วนชั้นล่างจะเป็นพื้นที่สำหรับ Facilities ทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็นสระว่ายน้ำ พร้อมที่นั่งพักผ่อนกลางสวน, ล็อบบี้ซึ่งมี 2 ระดับ  ที่เค้าออกแบบส่วนของพื้นที่นั่งพักผ่อนให้รับชมสวนกับสระว่ายน้ำไปด้วยได้, ฟิตเนส พร้อมอุปกรณ์ครบครัน, ห้อง Laundry และที่จอดรถทั้งใต้อาคารและชั้นใต้ดินอีก 68 ช่องจอด ครับ ส่วน Rooftop ก็ยังมีสวนที่จัดไว้ให้มาพักและสูดอากาศในช่วงแดดร่มได้ด้วยครับ ซึ่งภาพรวมของอาคารสวยแบบเรียบหรู ไม่ได้ฉูดฉาดแต่ก็มองได้นานๆ โดยไม่เบื่อ ด้วยสไตล์ Modern Classic จนโครงการเองก็ได้รับรางวัล  Best Low-Rise Condo Architectural Design จาก Thailand Property Awards 2017 ด้วย ส่วนพื้นที่ส่วนกลางที่แว่นชอบก็บริเวณสระว่ายน้ำ ที่มีทั้งส่วนกลางแจ้ง และบางส่วนก็ถัดเข้ามาในร่มอาคารบ้าง อันนี้สวยยังไง ตามไปดูในรูปของจริงกันได้ครับ

Unit Type ที่นี่มีทั้ง Studio (23.20-25.75 ตร.ม.), 1Bedroom (27.75-40.56 ตร.ม.) และ 2Bedroom (49.3-53 ตร.ม.) แต่ห้องตัวอย่างที่แว่นจะพาไปชมในวันนี้ คือ ห้องแบบ 1Bedroom ที่จัดบานสไลด์ยาวตั้งแต่หน้าห้องยันท้ายห้องเพื่อกั้นแบ่งส่วน ซึ่งเมื่อเปิดบานเลื่อนออกก็จะได้พื้นที่ห้องโล่งๆ กว้างๆ กันเลยครับ โครงการขายแบบ Fully Furnished เท่ากับว่าเราได้ทั้งเคาน์เตอร์ครัวครบชุดพร้อมเตาไฟฟ้าและเครื่องดูดควัน ตู้รองเท้า โซฟา ชั้นวางของ โต๊ะกลาง โต๊ะกินข้าวพร้อมที่นั่ง อุปกรณ์ในห้องน้ำ โต๊ะทำงาน โต๊ะเครื่องแป้ง เตียง พร้อมแอร์ด้วย ราคาเริ่มต้นตอนนี้โครงการจัด Promotion One Price ราคาเดียว 5.49 ล้าน* ฟรีค่าส่วนกลาง 2 ปี และฟรี Samsung Galaxy Note 9 ด้วยครับ

ใครที่สนใจก็ลงทะเบียนกันได้ที่นี่ครับ >> https://www.ananda.co.th/th/condominium/venio-sukhumvit-10

หรือสอบถามเพิ่มเติมที่ >>  02-316-2222

เอาเป็นว่าห้องจริงในพื้นที่จริงของโครงการจะเป็นยังไง ตามไปดูกับแว่นกันเล้ย

สำหรับห้องตัวอย่างวันนี้ เป็นห้อง Type 1 Bedroom – 34.8 SQ.M ห้องนี้ดูกว้างทีเดียวครับ เนื่องจากประตูที่ใช้กั้นห้องเป็นประตูกระจกบานสไลด์ขนาดใหญ่แบบที่เห็นนี้เลย ประตูถูกวางยาวไปจนถึงหน้าห้องน้ำ ส่วนระเบียงจะอยู่ทางฝั่งห้องนั่งเล่นครับ

เข้ามาด้านในจะเจอส่วนครัวก่อน ซึ่งบริเวณนี้ก็ดูจะมีพื้นที่ให้ยืนทำอาหาร หรือชุลมุนเดินสวนกันไปมา หยิบพริก หยิบผักกันได้แบบสบายๆ โดยชุดครัวบิวท์อินตรงนี้ทางโครงการให้ทั้งหมด รวมไปถึงเตาไฟฟ้า เครื่องดูดควัน ได้ไฟ LED ทั้งชุด บานปิดก็เป็นแบบ Soft Close และ Top ครัวหินสังเคราะห์ครับ

ซิงค์ล้างจานและเตาไฟฟ้าเป็นของ MEX ครับ

ส่วนอีกฝั่งก็จะเป็นตู้รองเท้า โครงการให้ด้วยนะครับ ตู้สูงสุดถึงเพดาน เก็บรองเท้ากันให้จุใจไปเลย คุณผู้หญิงตัวเล็กๆ ก็อาจจะเอื้อมหยิบของลำบากหน่อย เรียกคุณผู้ชายมาช่วยหยิบ สร้างโมเมนต์โรแมนติกได้แบบเนียนๆ ฮ่าๆ

จะเห็นว่าห้องน้ำสามารถเข้าจากด้านนอกได้ด้วย

ห้องน้ำที่นี่เข้าได้แบบ Double Access นะครับ จากด้านครัวเป็นประตูบานผลัก ส่วนจากห้องนอนเป็นประตูบานเลื่อน แต่ในความเป็นจริงบานสไลด์กั้นห้องเนี่ยมันกั้นไปถึงหน้าประตูห้องน้ำเลยนะ ถ้าอยากให้เปิดจากข้างนอกได้ก็ต้องเปิดบานเผื่อไว้ตามพื้นที่ประตูห้องน้ำหน่อยครับ

ด้านข้างครัวสามารถตั้งโต๊ะทานข้าวขนาดเล็กได้ ซึ่งทางโครงการให้โต๊ะทานข้าวกับเก้าอี้อีก 2 ตัวครับ

ถัดเข้ามาด้านใน จะเป็นพื้นที่ห้องนั่งเล่น ได้ทั้งโซฟา ชั้นวางทีวี แล้วก็โต๊ะกลางแบบนี้ นั่งติดกับระเบียงขนาดยาว ซึ่งบานเลื่อนเป็นกระจกสูงเกือบเต็มพื้นที่เลยครับ

ยังมีพื้นที่เหลือด้านข้างโซฟาให้วางอะไรได้นิดหน่อย

สำหรับห้องนี้จะได้แอร์ 2 ตัว ในห้องนอนและห้องนั่งเล่น ส่วนผนังที่ได้จะเป็นแบบฉาบเรียบทาสี และระยะความสูงเพดานอยู่ที่ 2.6 ครับ

ไฟในห้องจะเป็นไฟ LED มาเป็นทรงกล่องสี่เหลี่ยมแบบนี้ และมี Smoke Detector ติดตั้งมาให้เรียบร้อย

มาต่อกันที่ห้องนอนบ้าง ทางโครงการจะให้เตียงขนาด 5 ฟุต (ยกเว้นฟูกไม่ได้ให้นะครับ) พื้นที่รอบๆ ก็ยังพอเดินได้สบาย ในห้องนอนก็ยังมีหน้าต่างส่วนตัวให้อีกบริเวณใกล้หัวนอน

ด้านข้างสามารถวางโต๊ะทำงานขนาดเล็กได้ โครงการให้มาเช่นกันครับ พื้นที่ฝั่งนี้เหลือค่อนข้างเยอะ จะลองขยับเตียงให้เข้ามาชิดหน้าต่างขึ้น เพื่อให้ห้องมีพื้นที่เหลือเพิ่มอีกหน่อย หรือจะบิวท์อินเป็นชั้นวางของ หรือจับตู้ใส่เข้าไป ก็ยังได้ครับ

โต๊ะก็ค่อนข้างอเนกประสงค์ทีเดียว สามารถเปิดขึ้นเพื่อใส่ของใช้ด้านในได้ จะทำเป็นโต๊ะเครื่องแป้งก็ดี พับเก็บเป็นโต๊ะทำงานก็ได้ครับ

มาต่อกันที่ตู้เสื้อผ้า โครงการจะให้ตู้เสื้อผ้าแบบนี้เลยครับ เป็นบานปิดแบบ Soft Close หมดกังวล การปิดตู้ดังจนสะดุ้งหน้าบานเป็นไฮกลอส เปิดได้ 3 บานเลยครับ

ห้องน้ำก็ได้ตามนี้เลย กระจกใหญ่เต็มบาน เรียกได้ว่าส่องหน้าได้ตั้งแต่ยืนแถวอ้างล้างมือไปจนถึงนั่งโถส้วมกันเลยทีเดียว

สุขภัณฑ์เป็นของ KOHLER โครงการทำฉากกั้นส่วนเปียก – แห้งไว้ให้ และผนังห้องน้ำก็เจาะช่องสำหรับวางอุปกรณ์อาบน้ำเรียบร้อยครับ โอ้ ลืมบอกไป ประตูห้องน้ำที่ต้องเข้าจากด้านใน ตรงนี้จะเป็นประตูสไลด์นะครับ

ประตูห้องจะใช้ระบบ Digital Door Lock ส่วนประตูจะมีตัวกันฝุ่นด้านล่างไว้ให้แบบนี้ทุกห้อง

สำหรับห้องตัวอย่างวันนี้มีให้เราแอบดูเพียง 1 ห้องนะครับ แต่เดี๋ยวแว่นจะพาไปแอบดูส่วนกลางกันต่อ

เริ่มจากสวนลอยฟ้า หรือ Serenity Garden บริเวณ Rooftop มีพื้นที่นั่งพักผ่อน ให้รับลม ชมวิว สูดอากาศกันได้อย่างเต็มที่ แบบนี้ตอนกลางคืนคงจะสวยน่าดูเลยนะครับ

ถึงจะไม่ใช่ชั้นสูงมาก แต่ก็ยังมองเห็นฟ้าสวยๆ ได้อย่างชัดเจน แถมมีต้นไม้ปลูกไว้รอบๆ ช่วยให้ดูเป็นส่วนตัวมากขึ้นด้วย

จากนั้นก็ลงมาชั้นล่างกันต่อ

จะมี Mail Box อยู่บริเวณหน้าลิฟต์แบบนี้

ถัดเข้ามาหน่อยก็จะเป็นห้อง Laundry ครับ

ฟิตเนสและสระว่ายน้ำก็จะอยู่ชั้น 1 เช่นเดียวกัน ด้านในฟิตเนสก็ถือว่ามีเครื่องเล่นครบอยู่ครับ ทั้งลู่วิ่ง จักรยาน หนุ่มๆ มาเล่นกล้าม ชกมวยกันได้เต็มที่ ไม่ต้องเดินทางออกไปเล่นที่ไหนไกลๆ เลย

วิวด้านนอกก็จะเป็นวิวสระว่ายน้ำ ซึ่งก็จะอยู่ในระดับที่ต่ำกว่าสระลงมาหน่อย เพื่อให้คนวิ่งได้มองเห็นวิวด้านนอก ส่วนคนว่ายน้ำก็ไม่ต้องเขินมาก

ล็อบบี้ โครงการขนาดไม่ใหญ่ เพราะด้วยพื้นที่จำกัด แต่สวย หรู ดูคลาสสิคดีจริง

ใครที่ขึ้นสเต็ปบันไดมานั่งอยู่ตรงนี้ก็จะมองเห็นวิวสระน้ำสวยๆ ได้พอดี ครับ

ทางเดินไปสระว่ายน้ำ

สระว่ายน้ำสวยเลยครับ ให้ฟิลลิ่งเหมือนมาพักผ่อนอยู่ในรีสอร์ท โดยรอบถูกล้อมไปด้วยต้นไม้ ใบไม้สีเขียวขจี ทำให้รู้สึกผ่อนคลาย และได้ใกล้ชิดธรรมชาติมากขึ้น

ส่วนด้านหน้าบริเวณทางเข้าโครงการ ก็ยังคงมีต้นไม้ล้อมรอบ ช่วยบังสายตาคนที่เดินผ่านไปผ่านมาได้ครับ

ตรงนี้จะเป็นจุด Drop off ครับ

และทั้งหมดนี้ก็คือ แอบดูคอนโด Venio สุขุมวิท 10 โครงการแล้วเสร็จพร้อมอยู่ที่เป็นมุมสงบกลางใจเมือง เป็นยังไงกันบ้างครับจะสวยถูกใจเพื่อนๆ กันบ้างรึเปล่า ใครที่สนใจก็เข้าไปเยี่ยมชมดูห้องจริงที่โครงการกันได้ทุกวันนะครับ นี่เป็นอีกหนึ่งคอนโด Luxury ที่ยูนิตไม่มาก ไม่วุ่นวายจอแจเหมือนหน้าถนนสุขุมวิท และยังเหมาะกับคนที่ชอบออกกำลังกายในสวนด้วยครับ

ติดตามเราได้ที่ : facebook

ติดต่อสอบถาม : Contact