เดอะ พาร์คแลนด์ เพชรเกษม 56 คอนโดติดรถไฟฟ้าสถานีภาษีเจริญ และ Facilities เยอะที่สุดในย่านฝั่งธน

คอนโด เดอะ พาร์คแลนด์ เพชรเกษม 56 คอนโดใหม่ล่าสุดของบริษัท นารายณ์ พร็อพเพอร์ตี้

โดยปกติแล้วโครงการของพาร์คแลนด์ทุกๆที่มักจะเน้นพื้นที่สีเขียวๆ เพื่อให้ลูกบ้านได้อยู่กับธรรมชาติอย่างเต็มที่ แต่โครงการนี้เหนือกว่าโครงการอื่นๆตรงที่ว่า โครงการนี้อยู่ภายใต้พื้นที่โครงการที่ใหญ่มากถึง 13 ไร่ ติดรถไฟฟ้า MRT ภาษีเจริญ เพียง 40 เมตร และยังมี Facilities จัดเต็มสุดๆกว่า 30 รายการ

ฟังไม่ผิดนะครับ 30 กว่ารายการจริงๆ ผมลองทำภาพมาให้ดูคร่าวๆนะครับ ว่าโครงการนี้มี Facilities อะไรบ้าง

โดยโครงการมีทั้งหมด 3 ทาวเวอร์นะครับ

  • ทาวเวอร์ A : 32 ชั้น
  • ทาวเวอร์ B : 31 ชั้น
  • ทาวเวอร์ C : 29 ชั้น
  • มีห้องทั้งหมด 2047 ยูนิตประเภทห้อง
  • Studio 25.0-25.5 ตรม
  • 1 Bedroom 26.5-37.5 ตรม

  • 2 Bedrooms 48.5-62.0 ตรม

  • ที่จอดรถมีมากถึง 50%  ไม่รวมซ้อนคัน

          จำนวนลิฟท์ 

  • ทาวเวอร์ A : ลิฟท์โดยสาร 4 ตัว + บริการ 1 ตัว
  • ทาวเวอร์ B : ลิฟท์โดยสาร 4 ตัว + บริการ 1 ตัว
  • ทาวเวอร์ C : ลิฟท์โดยสาร 4 ตัว + บริการ 1 ตัว

สิ่งอำนวยความสะดวกเยอะมากๆครับ ตามนี้เลยครับ 

1.Grand Lobby

-Executive Lounge

-Lobby Lounge 

-Mailbox Room

-Shop

-Juristic Person Office

2.Double Volume Co-Working Space

-Social Club

-Workshop Area

-Gaming Recreation (Football Table, Pool Table)

-Meeting Room

-Library Area

3.Garden & Pools

-Lagoon Pool ที่ Tower A ระบบเกลือขนาดประมาณ 6.0×25.0 เมตร      

-Vanishing Edge Pool with Private Deck ที่ Tower C ระบบเกลือขนาดประมาณ 7.0 x 24.0 ม.

-Levels Garden พื้นที่ประมาณ 2,748 ตร.ม.

-Firefly Pavilion

-Rain Pavilion with Sunken Seat

-Outdoor Co-Living Area

-Waterfall

-Playground

-Street Basketball

-Jogging Track

4.Double Volume Fitness

-Fitness Area

-Boxing Stage

-2 Golf Simulator

-Sauna

-Yoga Room

5.Star Pavilion

-Mini Theatre & Karaoke Room

-Sky Private Party Room 

-Sky Social Club Area

6.Others

-Organic Farm

-Big Bike Parking

-Bike Storage

-Extra Storage

-Lift Access Control

-Access Card Control

-CCTV and 24 Hrs. Security System

Facilitities ของ The Parkland Phetkasem 56 มีการออกแบบเพื่อรองรับการใช้ชีวิตของคนรุ่นใหม่อย่างลงตัว จุดเด่นมีทั้งหมด 4 โซน ได้แก่

1.    Star Pavillion  (ทาวเวอร์ A ชั้น 32)

Sky Social club Area  ตกแต่งหรูหรา มาพร้อมกับ โรงหนังและ บริเวณจัดพื้นที่ปาร์ตี้ส่วนตัว ให้คุณดูหนังร้องเพลง หรือจัดปาร์ตี้กับเพื่อนได้อย่างสบายๆ และยังสามารถดูดาวและวิวเมืองกรุงเทพแบบพาโนรามามิวได้ที่บริเวณนี้

2.    Double Volume Co-Working Space (บริเวณทาวเวอร์ A,B ชั้น 1,2)

Co- Working Space ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์การทำงานของคนรุ่นใหม่ทันสมัยด้วยสไตล์ Modern Loft ออกแบบด้วยไม้ผสมเหล็ก ผสมผสานกับการนำเอาธรรมชาติเข้ามาตกแต่งเพื่อให้ลูกบ้านรู้สึกไม่อึดอัด และรู้สึกเข้าถึงธรรมชาติ ภายในออกแบบ 2 ชั้นและมีฟังก์ชันอื่นๆ มาอย่างครบครัน

-Social Club มุมนั่งเล่น hangout สบายๆ พร้อมกับ Ampitheater seating

-Workshop Area พื้นที่สำหรับนั่งทำงาน

-Gaming Recreation นอกจากนั่งทำงานแล้วยังสามารถเดินมาคลายเครียดจากการทำงาน ได้ที่มุม มุม Football Table, Pool Table นอกจากนี้ยังมี Meeting Room, Library Area 

3.  Double Volume Fitness (ชั้น5,6)

ฟิตเนสที่มาพร้อมอุปกรณ์ครบครัน, Sauna แยกชายหญิง, Locker Room และจุดเด่นไฮไลท์ที่พลาดไม่ได้คือ Boxing Stage ซึ่งผมก็ยังไม่ค่อยเห็นที่ไหนมีเวทีมวยนะครับที่บริเวณชั้น 5 และยังมี Golf Simulator ถึง 2 ห้อง ในส่วนของชั้น 6 มี Yoga Room 

4. Pools & Garden (สระและสวน)

สระและสวนมีแรงบันดาลใจมาจากเสน่ห์ของพื้นที่เกษมกรรมในย่านบางแคเดิมที่มีกล้วยไม้ คลอง และธรรมชาติอันอุดมสมบูรณ์ จึงนำมารังสรรค์เพื่อใช้ในการออกแบบโครงการ

และนำมาซึ่งสระและสวน ผืนขนาดใหญ่ที่เชื่อมกันระหว่าง 3 ทาวเวอร์ โดยตรงบริเวณกลางสวนจะพบ Rain Pavilion with Sunken Seat (7) หลุมนั่งในน้ำที่ได้แรงบันดาลใจมาจากหยาดฝน การออกแบบจึงคล้ายๆกับเรานั่งอยู่กลางสายฝน และห้อมล้อมเอาไว้ด้วยธรรมชาติผืนสีเขียวขนาดใหญ่

โดยสระและสวนจะแบ่งออกเป็นฝั่งทาวเวอร์ A,B และฝั่งทาวเวอร์ C โดยให้คอนเซปต์ว่า Health & Hip  ในส่วนของ Health จะเป็น Vanishing Edge Pool with Private Deck ที่ Tower C  (1) จะเป็นสระที่มีคอนเซปต์เป็นแม่น้ำบรรยากาศเรียบสงบ ภายในสระมี deck แท่นลอยกลางน้ำ สำหรับกิจกรรมโยคะกลางน้ำ  และสระฝั่งทาวเวอร์ C ยัง เดิน connect ต่อไปยังฟิตเนสได้ (6)ที่บริเวณชั้น5  จึงเรียกฝั่งทาวเวอร์ C เป็นโซนเพื่อสุขภาพอย่างแท้จริง

ส่วนต่อมา สระ Lagoon Pool ที่ Tower A (2) จะอยู่บริเวณชั้น 6  มีแนวคิดแบบ Hip style เหมาะกับ activiteis ต่างๆ ไม่ว่าจะกับเพื่อน หรือว่าครอบครัว สระจึงออกแบบในลักษณะ lagoon เน้นความสวยงามของสีสันมีการเล่นระดับภายในตัวสระ และเน้นเส้นโค้งเว้าสระทำให้ดูเป็นธรรมชาติ อีกทั้งยังมีต้นไม้จำนวนมาก ให้ความรู้สึกส่วนตัวและรู้สึกได้ถึงธรรมชาติที่โอบล้อมเราอยู่ขณะว่ายน้ำ

ในส่วนของสวนเล่นระดับ Levels Garden (3) เป็นสวนบริเวณหน้าทาวเวอร์ B ที่มีทางเดินและทางลาดชัน ทำให้คุณสามารถเดินจากชั้น 6 ลงมาได้ถึงชั้น 3 ระหว่างทางที่เดินลงมาชั้น 5 สามารถเดินเชื่อมไปยังฟิตเนสได้ และยังจะพบ  Firefly Pavilion(4) ที่ถูกตกแต่งประดับประดาด้วยไฟระยิบระยับคล้ายกับหิ่งห้อยยามค่ำคืน 

และเมื่อลงมาถึงบริเวณชั้น 3 จะมี Waterfall(2) และเป็นบริเวณของ Outdoor Co-Living Area เป็นที่นั่งชิลล์ หรือแม้แต่จะนั่งทำงานท่ามกลางสวนและน้ำตก หรือเดินเล่นก็ทำได้ที่บริเวณนี้

และจากบริเวณชั้นสวนถ้าเดินลงมาเรื่อยๆ จะเป็นทางเดินรอบสนามบาสเกตบอล(5) ที่กั้นสูงเอาไว้เพื่อเป็นทางเดิน และใช้ดูเพื่อนๆที่กำลังเล่นบาสเกตบอล

ส่วนผ่านด้านล่างนี้เป็นตรงบริเวณ Grand Lobby ของทางพาร์คแลนด์ครับ พื้นเป็นหินอ่อนดูหรูเลยครับ

สรุปนะครับตามความคิดผมผมว่า

คอนโดนี้เหมาะอย่างมากสำหรับผู้ที่จะอยู่อาศัยเอง ราคาเริ่มต้น 1.79 ล้านก็ตกตารางเมตรละประมาณ 70000 บาทขึ้นไปครับ ก็ถือว่าคุ้มมากเพราะปกติคอนโดที่ติดหน้าสถานีรถไฟฟ้าขนาดนี้ราคา 70000 บาทนี่คงไม่ค่อยได้มีให้เห็นกันครับ และผมว่า Facilities ก็ให้มาแบบจัดเต็มมากๆ แต่ถ้าสำหรับนักลงทุนแล้วผมก็อยากให้ลองคิดกันดูนะครับว่า ยูนิตที่นี่ค่อนข้างจะเยอะมากคู่แข่งนักลงทุนหรือคนที่คิดจะเกร็งกำไรก็คงจะมีให้เห็นกันเยอะมาก แข่งกันดุเดือดเลยแหละครับ  ส่วนเจ้าด้านข้างอย่างศุภาลัยก็ทำราคามาได้ดีแค่ ประมาณ 57000 บาทต่อตรม ราคาก็ต่างกันพอสมควรเลยครับ สำหรับปล่อยเช่าถ้าลงทุนพาร์คแลนด์ต้นทุนที่ได้มาก็คงจะสูงกว่าศุภาลัยแน่ๆครับ ศุภาลัยมี 1800 กว่ายูนิต คือรวมสองโครงการปาเข้าไป 4000 กว่ายูนิตแล้วครับ ยังไม่รวมเส้นนั้นอีกประมาณ 6-7 โครงการที่ขึ้นมาก่อนหน้า ยังไงแล้วผมว่าโครงการนี้เหมาะมากๆสำหรับคนที่จะอยู่เองเพราะคุ้มครับ สเปคของพาร์คแลนด์ดีหายห่วง แต่ถ้าเกร็งกำไรก็ต้องถือกันยาวๆหน่อยครับ 🙂

ติดตามเราได้ที่ : facebook

ติดต่อสอบถาม : Contact