หนึ่งวันที่ “สายลวด” ส่วนต่อขยายรถไฟฟ้าสายสีเขียวแบบต่อเดียวเข้าเมือง

ดิ ออริจิ้น สุขุมวิท – สายลวด อี 22 สเตชั่น

ในวันที่สายฝนไหลรินไม่ขาดสาย ผมนั่งเอนกายสบายๆ อยู่ใน “ท้ายบ้านคาเฟ่” ร้านกาแฟสไตล์อบอุ่นสุดอินดี้ เพราะคุณพี่ตกแต่งด้วยเฟอร์นิเจอร์หลากดีไซน์ตามแต่ใจผู้ออกแบบจะสรรหา ผู้คนมากหน้าหลายตานั่งจับกลุ่มกันตามโต๊ะ แลกเปลี่ยนบทสนทนาและเสียงหัวเราะเคล้าคลอกับเสียงฝน ผมอยู่ในมู้ดของคาเฟ่ที่ไม่ผิดแผกไปจากในกรุงเทพ เว้นเสียแต่ว่าในวันนี้ผมมาอยู่ในโซน “สายลวด” สมุทรปราการ ครับ

ย้อนไปก่อนจะเข้ามาถึงร้าน เราสองคนได้ขับรถทัวร์ชมแหล่งท่องเที่ยวโซนนี้เพื่อเอารูปมาฝากทุกคนกันด้วย เริ่มจากสถานตากอากาศบางปูที่เคยได้ยินและเห็นรูปสวยๆ มานาน ขับรถมาจนถึงป้อมทางเข้า ก็ได้สอบถามเค้าตามประสาคนมาครั้งแรกว่า “ที่มีนกสวยๆ คือในนี้ใช่มั้ยครับพี่?” พี่เค้าตอบอย่างนุ่มนวลว่า “ใช่ครับ แต่นกมาหน้าหนาวนะครับ” ใช่แล้วครับ หน้าแหกตั้งแต่หน้าด่าน แต่ไม่เป็นไร ไม่เห็นนกก็ขอมาสัมผัสบรรยากาศลมทะเล และผืนป่าชายเลนเขียวๆ ให้ชื่นใจ โดยลืมว่าแดดตอนกลางวันร้อนแค่ไหนไปเสียก่อน หลังจากอิ่มหนำกับอาหารทะเลรสอร่อย เราก็ไปต่อกันที่ฟาร์มจระเข้สมุทรปราการครับ

แหล่งท่องเที่ยวช่วงนี้ ใครๆ ก็คงพอจินตนาการได้ว่ามีอะไรที่เปลี่ยนแปลงไปบ้าง ยิ่งเรามากันวันธรรมดาก็ออกจะเงียบเหงาไปหน่อย คิดในใจว่าอย่างน้อยบรรดาสัตว์ในนี้จะได้ความคึกคักกลับไปบ้าง ที่นี่มีจระเข้เยอะมาก เรียกว่าเราสองคนตกลงไปก็คงแบ่งกันไม่อิ่ม สิงสาราสัตว์ต่างๆ ก็มีให้เดินชมมากมาย แต่ที่อะเมซิ่งจนติดใจก็คือการหย่อนให้อาหารลงไปในบ่อเสือที่กำลังว่ายน้ำมารอกินด้วยสายตานักล่า บ้างก็พยายามปีนขึ้นมาบนขอบ และกระโจนงับก่อนลากลงน้ำกลับไป นึกในใจว่าดีเหลือเกินที่นั่นไม่ใช่แขนหรือขาของเรา…

ตัดกลับมาที่ร้าน หลังจากคุณพี่เสิร์ฟ “แมกม่า ลาวา” เมนูไอศรีมไข่แข็งที่ราดด้วยโกโก้ร้อนๆ มาให้เราได้ลองชิม ผมก็ได้พูดคุยกับเจ้าของร้านที่ดูใจดี เกี่ยวกับการเจริญเติบโตในพื้นที่ ไม่ว่าจะเป็นการมีห้างขนาดใหญ่ริมถนนสุขุมวิทอย่างโรบินสันไลฟ์สไตล์สมุทรปราการ เห็นขนาดสุดอลังการก็สมกับที่เอาชื่อจังหวัดมาตั้ง ฝั่งตรงข้ามก็มีบิ๊กซี แถมทั้งสองห้างนี้ก็อยู่ถัดไปเพียงหนึ่งสถานีจาก BTS “สายลวด” ที่ซึ่งเราจะพามาชมคอนโดใหม่ในวันนี้ครับ จากถนนสุขุมวิทที่ตั้งสถานี เราสามารถใช้ถนนสายลวดนี่แหละ วิ่งเข้าไปยังในตัวเมืองที่เต็มไปด้วยความคึกคัก ทั้งตลาด ร้านรวง ของกิน โรงเรียน โรงพยาบาล และหอชมเมืองสวยงามที่ตั้งตระหง่านเป็นแลนด์มาร์คแห่งปากน้ำในระยะประมาณกิโลกว่าๆ เท่านั้น เป็นถนน 6 เลนที่จัดตกแต่งเกาะกลางไว้สวยงามเลยทีเดียว

ถนนท้ายบ้านซึ่งอยู่ในโซนเดียวกัน ที่ตั้งของคาเฟ่ที่เรามานั่งชิมนี้ยังจะมี Tesco Lotus ขนาดใหญ่มาเปิดอีกในไม่กี่วัน ทำให้รู้ว่านี่คือย่านคึกคักมีกลุ่มเป้าหมายจับจ่ายใช้สอยอีกมาก พี่เจ้าของร้านแชร์กับเราว่า คนสมุทรปราการเดี๋ยวนี้นั่งรถไฟฟ้าเข้าไปทำงานในเมืองสบายเลย ซึ่งก็ทำให้คนพุทธมณฑลอย่างผมอดอิจฉาไม่ได้ว่า ไม่มีรถไฟฟ้าเส้นหลักไปถึงบ้านอย่างเขามั่ง ฮ่าๆ เมื่อรวมกับปัจจัยบวกของกรุงเทพฯ ฝั่งตะวันออก ที่มีการพัฒนาของภาคธุรกิจที่เราได้เห็นการก่อสร้างออฟฟิศโซนปลายสุขุมวิทจากอ่อนนุชไปบางนามากขึ้น อย่าง True Digital Park รวมไปถึง Mega Project อย่าง Bangkok Mall หากไม่ได้อยากต้องการความวุ่นวายในตัวเมืองตลอดเวลา นั่งรถไฟฟ้าได้ วันนี้ผมมีคอนโดใหม่มาเล่าให้ฟังนั่นก็คือ “The Origin Sukhumvit Sailuat E22 Station”

ชื่อ E22 ก็มาจากชื่อตำแหน่งสถานีสายลวดนี่แหละครับ ฟังข้อมูลจากโครงการแล้วดูจะติดใจเลข 2 น่าดู ไม่ว่าจะเดินจากโครงการไปสถานีราว 222 ม. นั่งต่อเดียวถึงใจกลางเมือง 22 นาที และลงทะเบียนจองรอบ VVIP เพียง 2,222 บาท อยากรู้ว่าถ้าไปกัน 2 คนจะมีส่วนลดให้เพิ่มมั้ย ฮ่าๆ แต่ที่ทำให้ผมสนใจที่สุดก็คือราคาเริ่มต้นที่ 1.022 ล้านครับ ลงทะเบียนจองสิทธิ์ไว้ก่อนได้เลย https://bit.ly/2QrvnnE

โครงการ ดิ ออริจิ้น สุขุมวิท สายลวด E22 Station เป็นคอนโด High Rise สูง 31 ชั้น พร้อม 1 อาคารจอดรถ มีห้องพักอาศัยทั้งหมด 998 ยูนิต ตั้งอยู่บนนถนนสายลวด แถวๆ หัวถนนฝั่งที่เข้ามาจากถนนสุขุมวิทครับ มีห้องทั้งหมด 3 แบบ คือ

  • แบบ Smart Closet 21.5 ตร.ม. เป็นยูนิตขนาดเริ่มต้นของโครงการในราคาไม่เกิน 1.59 ล้านบาท มีจุดเด่นคือ มีพื้นที่ Walk-in Closet สามารถจัดวางตู้เสื้อผ้าขนาดใหญ่ ไว้เป็นที่เก็บของเพิ่มเติม มีพื้นที่วางตู้เก็บรองเท้า และเป็นครัวปิดครับ
  • แบบ 1Bedroom ขนาด 26 ตร.ม. ราคาอยู่ราวๆ 1.65 – 2.25 ล้าน เป็นห้องที่เริ่มอยู่ 2 คนได้ ได้พื้นที่แยกสัดส่วนกันระหว่างห้องนอนกับห้องนั่งเล่น แถมยังได้ครัวปิดเหมือนเดิมครับ
  • แบบ 1Bedroom Plus ขนาด 34 ตร.ม. เป็นขนาดห้องที่ใหญ่ที่สุดในโครงการ ราคาอยู่ราว 2.25 – 2.99 ล้านบาท จุดเด่นคือ มีมุมชมวิวทุกห้อง ทั้งห้องนั่งเล่น ห้องนอน และห้องอเนกประสงค์ซึ่งสามารถปรับฟังก์ชั่นเป็นห้องนอนได้ด้วย นอกจากจะอยู่กัน 2 คนแล้ว หากเริ่มต้นครอบครัวพร้อมตัวน้อยก็สามารถรองรับครับ

พื้นที่ส่วนกลางถือเป็นจุดเด่นของโครงการเลย เค้าใช้จุดเด่นของวิวจากทำเลนี้ที่ได้เห็นโค้งแม่น้ำ และทะเล มาเป็นตำแหน่งจัดวาง Facilities ให้อยู่ชั้นสูงเพื่อให้ทุกคนได้ชมวิวธรรมชาติและหอชมเมืองสมุทรปราการด้วย คือชั้น 29, 30 และ Rooftop มีทั้ง สระว่ายน้ำความยาว 50 เมตร Sky Lounge, Fitness, Sky Garden พร้อมจุดชมวิว, Game Room, Studio และบริเวณชั้น 8 ของอาคารจอดรถ เค้าก็ทำมาเป็น Multi Sport Area ที่มีทั้งโซนบาสเกตบอล และสเก็ตบอร์ดครับ ส่วนบริเวณชั้น G ก็มีทั้ง Main Lobby, Private Lobby, Smart Locker ให้ใช้งานครับ

และทั้งหมดนี้ก็คือ 1 วันที่สายลวด ที่เราพาทุกคนมาให้ได้บรรยากาศและการใช้ชีวิตแถวนี้ พร้อมทั้งอนาคตคอนโดใหม่ที่จะเกิดขึ้นที่นี่ด้วยครับ สำหรับแฟนเพจที่สนใจก็คลิกลงทะเบียนรับสิทธิพิเศษจากโครงการได้ที่นี่เช่นเคย >> https://bit.ly/2QrvnnE

พิกัดนำทางมาโครงการ : https://goo.gl/maps/Ug47gffMBqM9Xk2S7
สอบถามทาง Line Official คลิ๊ก : https://lin.ee/wPMKhuQ
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมโทร
– 062-598-2000
– 097-014-7411
– 084-902-0099

คราวหน้าเราจะพาไปที่ไหนกันอีก ติดตามได้ที่นี่กับพวกเรา Living Sneak Peek ครับ

#LivingSneakPeek #ProjectReview
#ORIGIN #TheOriginSukhumvitSailuatE22Station

The origin sukhumvit sailuat

ท้ายบ้าน คาเฟ่

นี่แหละครับ “ท้ายบ้าน คาเฟ่” ที่ผมพูดถึง ใครจะรู้ว่าภายนอกอาจจะดูเหมือนร้านกาแฟทั่วไป แต่พอเข้าไปข้างในแล้วรับรองว่าต้องอดไม่ได้ที่จะหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาถ่ายรูปแน่ๆ

เมนูเค้ามีให้เลือกหลากหลาย ส่วนไอติมไข่แข็งราดโกโก้หอมๆ ที่ผมสั่งมาตัวนั้นเป็น Signature ของร้านเลยครับ

มีเจ้าคาบิก้อนตัวใหญ่เบิ้มให้เด็กๆ หยิบมากอดได้ด้วย ซึ่งผมก็ใช้เวลานั่งอยู่ในร้านนี้เกือบชั่วโมงเพื่อรอให้ลมพัดพาสายฝนผ่านไปไวไว

ก่อนจะหมดหนึ่งวันที่สายลวดนั้น ผมใช้เวลาตั้งแต่เช้าเพื่อมาดูความน่าสนใจของทำเลนี้ ซึ่งจุดแรกที่เรียกให้พวกเราแวะไปชม โดยไม่กลัวแสงแดดที่จ้องจะแผดเผานั่นก็คือ “สถานตากอากาศบางปู” ครับ

ตอนเด็กๆ ก็พอจำได้ลางๆ ว่าแม่เคยพามากินข้าว ดูนกตัวสีขาวๆ แล้วระหว่างกินข้าวไปก็จะได้ยินเสียงเพลงที่พวกผู้ใหญ่เค้ามาเต้นลีลาศกัน พอวันนี้ได้กลับมาที่นี่ใหม่ก็ชวนเอาคิดถึงบรรยากาศเหมือนกันนะครับ

อย่างที่บอกว่าพวกเรามากันตอนแดดร้อนจัดแบบนี้ก็เลยไม่ค่อยมีนกให้เห็น โดยปกติแล้วนกพวกนี้จะพากันอพยพหนีหนาวมาที่นี่หลายพันตัวทุกปีเลยครับ ผู้คนก็จะพากันมาชมพระอาทิตย์ตกดิน พร้อมป้อนอาหารนกซึ่งสามารถป้อนได้ถึงปากเชียวแหละ แถมสมุทรปราการก็ไม่ไกลจากกรุงเทพฯ เลย ดังนั้นที่นี่จึงเป็นอีกหนึ่งสถานที่พักผ่อน ที่ทำให้เราใกล้ชิดกับธรรมชาติได้ง่ายๆ แบบไม่ต้องเดินทางขึ้นเขาลงห้วยให้เหนื่อยเลย

เดินถ่ายรูปเล่นกันเพลินๆ ก็ถึงเวลาที่กองทัพต้องพักเติมพลังแล้วครับ (เอ๊ะ ไหนบอกแวะที่นี่ที่แรก ทำไมหมดพลังกันเร็วจัง ฮ่าๆ) เชื่อว่าหลายคนที่เคยมาเที่ยวบางปู ดูนกแบบนี้ ต้องไม่พลาดที่จะแวะทานอาหาร ริมน้ำ รับลมเย็นๆ กันอย่างแน่นอน อาหารที่นี่เค้าก็มีหลากหลายครับ ผมเห็นโต๊ะข้างๆ มากินปู กินกุ้งเผากันทั้งนั้น มันก็ได้บรรยากาศเหมือนอยู่ริมทะเลดีเหมือนกันนะ

เมื่อหลอดพลังงานเต็มจนเป็นสีเขียวแล้ว เราก็ออกเดินทางสำรวจทำเลกันไปเรื่อยๆ และมีสิ่งหนึ่งที่ผมสังเกตเห็นก็คือ ฟุตบาทข้างทางของที่นี่เค้าทำดีมาก คือมีต้นไม้สีเขียวอยู่ตลอดแนว แถมยังทำเลนจักรยานไว้ให้ผู้คนได้สัญจรไปมาได้อย่างปลอดภัย ส่วนป้ายรถเมล์เค้าก็ทำหลังคามาช่วยบังแดดให้พร้อม ซึ่งนี่ก็ทำให้ถนนบริเวณนี้ดูน่าอยู่ขึ้น และสบายตากับคนใช้รถใช้ถนนกันด้วย ดีไม่ดีแถวนี้ดูสวยกว่าฟุตบาตในเมืองอีกนะ

ผมขับรถบนเส้นถ.สุขุมวิท ผ่านสิ่งที่น่าสนใจมากมายเลยครับ ไม่ว่าจะเป็น เมืองโบราณ หรือพิพิธภัณฑ์เอกชนกลางแจ้งที่ใหญ่ที่สุดในโลก ที่ๆ เค้ารวบรวมเรื่องราวประวัติศาสตร์ไทยมาจัดแสดงไว้บนพื้นที่กว่า 800 ไร่, วัดอโศการาม วัดที่มีความโดดเด่นด้านสถาปัตยกรรม และยังเป็นที่ประดิษฐานพระบรมสารีริกธาตุ และยังมีสวนอาหาร โรงพยาบาล วิทยาลัยได้พบเห็นอยู่ตลอดทาง ซึ่งผมชอบถนนเส้นนี้นะ มีหลายเลน ขับง่าย แถมยังมีจุดกลับรถหลายจุด ค่อนข้างสะดวกทีเดียวครับ

และแล้วก็ได้เวลาหาอะไรสนุกๆ ทำ เพื่อย่อยเจ้าหมึกไข่ทอดกระเทียมจานนั้นออกไปซักหน่อย เราจะไปเยี่ยมเหล่าสัตว์น้อยใหญ่ที่ “ฟาร์มจระเข้และสวนสัตว์สมุทรปราการ” กันครับ

ที่นี่เค้าว่ากันว่าเป็นฟาร์มจระเข้ที่ใหญ่ที่สุดในโลกเชียวนะ มาถึงสมุทรปราการทั้งทีจะไม่แวะก็ไม่ได้เนอะ ส่วนค่าเข้าสำหรับเด็กอยู่ที่ 30 บาท ผู้ใหญ่ 80 บาท ชาวต่างชาติ 300 บาท เปิดให้เข้าชมทุกวัน เวลา 07.00 – 18.00 น. ครับ ซึ่งวันนี้เป็นวันธรรมดา คนก็เลยจะน้อยหน่อย เดินเล่นได้สบายๆ เหมือนเดิมชมจระเข้อยู่สวนหลังบ้าน ฮ่าๆ

เข้ามาด้านในแน่นอนว่าต้องเจอกับเจ้าจระเข้หลายสิบตัวนอนอ้าปากอาบแดดกันอยู่ ซึ่งเราสองคนก็เดินเก็บภาพไปขาสั่นไป แต่ละตัวดูเบื่อเต็มที่ น่าจะกำลังอยากหาอะไรสนุกๆ ทำพอดี ดูสิครับ มานอนเรียงรายโชว์หน้า V Shape กันใหญ่ ใครว่างลองนับเล่นๆ ดูมั้ยว่าบ่อนี้มีกี่ตัว

และนอกจากจะเป็นฟาร์มจระเข้แล้ว ที่นี่ก็คือสวนสัตว์ดีๆ นั่นแหละครับ เค้ามีสัตว์มากมายหลากหลายชนิดให้เราได้เยี่ยมชม ไม่ว่าจะเป็น แพะ ลา ฮิปโป เสือ สิงโต หมี หมู ช้าง ลิงข้างบ่างชะนี ฯลฯ บางจุดก็มีให้ซื้ออาหารป้อนได้ด้วย

จุดนี้นี่แหละครับ ที่เป็นความ Amazing นี่เป็นบ่อเสือโคร่งที่มีเจ้าเสือ 3 ตัวกำลังแช่น้ำกันอย่างชุ่มฉ่ำ ตรงนี้เราสามารถซื้อชิ้นเนื้อแล้วโยนลงไปให้พวกมันได้เลย แถมตอนโยนมันทำท่าปีนป่าย ตะกายกำแพงเหมือนจะขึ้นมาด้วย ผมนี่แขนหดเลย

ดูสายตาเจ้าแมวยักษ์ตัวนี้ คงไม่ค่อยพอใจเท่าไหร่ที่ผมไม่ยอมป้อนให้เองกับมือ

ทีนี่กว้างใหญ่ แล้วก็มีสัตว์ให้เลือกชมเยอะนะครับ เห็นแบบนี้แล้วก็อยากจะเชิญชวนให้มาเที่ยวกันเยอะๆ
เพราะบรรยากาศแบบนี้ก็ไม่ได้พบเจอกันบ่อยๆ แถมช่วงโควิดที่ผ่านมาก็ทำเอาเจ้าสัตว์เหล่านี้เหงาไปหลายเดือนเลย

หลังจากสำรวจและทำความรู้จักกับทำเลในย่านนี้กันมาพอหอมปากหอมคอแล้ว ก็มาดูที่อยู่อาศัยกันบ้าง ซึ่งก็อย่างที่ผมเกริ่นไปข้างต้นว่าโครงการนี้เป็นคอนโดมิเนียมตัวใหม่จากออริจิ้น ชื่อว่า The Origin Sukhumvit Sailuat E22 Station ตั้งอยู่บนถนนสายลวดนี่แหละครับ

เผื่อใครนึกภาพไม่ออกลองดูในแผนที่นี้ได้ โครงการอยู่บริเวณโค้งถนนสายลวดจุดเชื่อมต่อกับถนนสุขุมวิทครับ
 

ถนนเป็นถนน 6 เลน ระยะทางประมาณกิโลเมตรกว่าๆ สามารถเชื่อมต่อไปยังเขตเทศบาลตัวเมืองได้
 
 
ระยะห่างจากโครงการถึง BTS สถานีสายลวดประมาณ 222 เมตร สถานีนี้ค่อนข้างใหญ่ทีเดียวครับ
 
 
เอาบรรยากาศถนนสายลวดมาให้ชมกันครับ สองข้างทางก็มีร้านขายของ ธนาคาร ร้านอาหาร และธุรกิจต่างๆ ในท้องถิ่นอยู่ประปราย
 
 
 
 
 
ถนนสายลวดนี้เมื่อวิ่งตรงเข้าไปยังเขตเทศบาลตัวเมือง ก็จะไปบรรจบกับถนนด่านเก่า และถนนประโคนชัยที่วงเวียนท้ายบ้าน
 
 
เมื่อเลี้ยวไปยังถนนท้ายบ้าน โซนนี้ยังจะมีห้าง Tesco Lotus ขนาดใหญ่มาเปิดอีกนะ ขนาดอยู่ในถนน Local แสดงว่าคนคงเยอะจริงๆ
 
 
ใกล้ๆ กันมีสวนสาธารณะให้มาพักผ่อนหย่อนใจ ออกกำลังกายกันด้วย ชื่อว่า “สวนสาธารณะป้อมปีกกา”
 
 
และมี รพ.สมุทรปราการ โรงพยาบาลขนาดใหญ่อยู่ใกล้ๆ ด้วยครับ ก็มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบสำหรับการใช้ชีวิตแล้วล่ะครั
 
 
แต่ถ้าวิ่งขวาไปทางถนนประโคนชัยก็จะเจอกับความคึกคักน้องๆ เยาวราชกันเลยทีเดียว แต่เป็นเวอร์ชั่นรวมตลาดสดขนาดใหญ่เข้าไปด้วยอีกหลายตลาด
 
 
ฝั่งที่อยู่ริมน้ำนี่มีสถานที่พักผ่อนหย่อนใจอีกหลายที่นะครับ โดยเฉพาะศาลากลางจังหวัดสมุทรปราการ
 
 
แถวนี้ของกินเยอะมากกกๆ เลยนะครับ เห็นแล้วหิว แล้วก็น่าจะคึกคักเพราะมีพี่ๆ เดลิเวอรี่อยู่แถวนี้ด้วย ร้านในภาพนี่ครัวเจ๊จุก กับเจ๊จุกสาขา 2 อยู่ติดกันเลย คนพื้นที่บอกทีเค้าไม่ได้ตีกันใช่มั้ย 555
 
 
กลับมาถนนสุขุมวิทด้านหน้าบ้าง ถนนแถวนี้สวยงามน่าใช้แถมมีตั้ง 8 เลน รถไฟฟ้าก็วิ่งผ่านถนนเส้นนี้ยาวมาจากอ่อนนุชเลย
 
 
 
ฝั่งซ้ายและขวาที่สถานีแพรกษาเป็นที่ตั้งของห้างใหญ่มหึมาอย่างโรบินสัน ไลฟ์สไตล์ สมุทรปราการ ห่างไปสถานีเดียวจากสถานีสายลวดครับ
 
 
เราเอา Layout ห้องแบบแรกมาให้ชมกันก่อน เป็นแบบ Smart Closet ขนาด 21.5 ตร.ม. ครับ แม้จะมีขนาดกะทัดรัด แต่ห้องนี้เค้าพยายามเน้นใน 3 ส่วนที่เกี่ยวข้องกับการอยู่อาศัย ก็คือ เรื่องการทำอาหาร พื้นที่พักผ่อน และเรื่องของที่เก็บของ เราจะเห็นว่าเมื่อเข้าประตูมาจะพบกับครัวปิดที่ช่วยลดปัญหากลิ่นภายในห้อง ด้านในเค้ารวมพื้นที่ Living กับห้องนอนไว้ด้วยกันเป็นพื้นที่พักผ่อนขนาดใหญ่ และยังมีพื้นที่แบบ Walk-in Closet อยู่ด้านในห้องด้วยทำให้มีพื้นที่เก็บของเหลือๆ แลกกับการที่เดินไปห้องน้ำไกลหน่อยครับ เดี๋ยวลองชมทีละฟังก์ชั่นจากรูปของโครงการกันดูครับ
 
 
ทางเข้าห้องมามีพื้นที่สำหรับตู้วางรองเท้าและแขวนกุญแจได้ด้วยครับ
 
 
มีครัวน่ารักๆ อยู่ฝั่งตรงข้าม ที่มีตู้แขวนให้ได้เก็บของพอสมควร
 
 
ผ่านบานเลื่อนกั้นครัวไปด้านในจะเป็นฟังก์ชั่นห้องนอนกับพื้นที่นั่งเล่นอยู่รวมกันเป็นพื้นที่ขนาดใหญ่ครับ
 
 
ถัดไปด้านในก็คือไฮไลท์ของห้องนี้ Smart Closet นั่นเอง และก็เป็นทางเข้าไปสู่ห้องน้ำด้านในสุดครับ
 
 
ห้องถัดมาคือ Layout แบบ 1Bedroom 26 ตร.ม. ห้องนี้ก็ยังได้พื้นที่ครัวปิดเช่นเคย แต่ได้ขนาดเต็มๆ กว่าห้องแบบแรกแถมยังอยู่ติดระเบียงซึ่งจะช่วยระบายอากาศได้สะดวก ที่สำคัญห้องนี้จะแยกฟังก์ชั่น Living กับห้องนอนออกจากกันแล้วครับ สะดวกและรักษาความเป็นส่วนตัวมากขึ้นเวลาต้องรับแขก และตำแหน่งของห้องน้ำก็ใช้ได้สะดวกมากขึ้นไม่ว่าจะอยู่ในส่วนไหนของห้องครับ
 
 
 
ห้องนี้เราจะได้พื้นที่ห้องนั่งเล่นแยกกันออกมาจากห้องนอนแล้วครับ
 
 
แล้วก็ยังได้จุดเด่นเรื่องของการเป็นครัวปิดอยู่เหมือนเดิม
 
 
ห้องสุดท้ายคือห้องที่มีขนาดใหญ่มากที่สุดในโครงการนี้คือแบบ 1Bedroom Plus ขนาด 34 ตร.ม. ข้อนี้จุดเด่นที่สุดก็คือเรื่องความยืดหยุ่นในการพักอาศัยครับ เพราะห้องพลัสนี้สามารถปรับฟังก์ชั่นเป็นห้องนอนที่ 2 แบบที่ใส่เตียง 3 ฟุตลงไปได้ ใครที่วางแผนจะมีครอบครัวขยายน่าจะเหมาะสม โดยไม่จำเป็นต้องซื้อห้องใหญ่จนเกินไป และทุกห้องมีมุมชมวิวของตัวเองไม่ว่าจะเป็นห้องนั่งเล่น ห้องนอน หรือห้องอเนกประสงค์ครับ
 
 
ห้องนี้จะได้ทั้งห้องนั่งเล่น 1 ห้องนอน และอีกหนึ่งห้องอเนกประสงค์ครับ
 
 
 
แต่ละห้องจะได้มุมชมวิวเป็นกระจกขนาดใหญ่ของตัวเอง
 
 
ห้องอเนกประสงค์ก็ได้ด้วยเหมือนกันครับ
 
 
ปิดท้ายด้วยภาพดราฟต์โครงการ ตอนนี้ทางโครงการมีให้มาเท่านี้ก่อนครับ ถ้ามีอัพเดทเพิ่มเติมจะรีบนำมาให้ชมกันอีกนะครับ