รีวิว CHERENE กรุงเทพกรีฑา-ร่มเกล้า บ้านเดี่ยวใหม่ติดถนนร่มเกล้า ในสังคมส่วนตัวเพียง 83 หลัง เริ่ม 8-12 ล้านบาท

บ้านเดี่ยว CHERENE กรุงเทพกรีฑา-ร่มเกล้า

วันนี้เราจะพาทุกคนไปดูบ้านเดี่ยวโครงการใหม่จาก PEACE & LIVING ในพิกัดกรุงเทพตะวันออกกันครับ ที่นี่คือ “CHERENE กรุงเทพกรีฑา – ร่มเกล้า” ฟังจากชื่อก็นึกถึงที่ตั้งโครงการไม่ยาก ตั้งอยู่ติด ถ.ร่มเกล้า ช่วงระหว่าง ซ.34 และ 36 ใกล้กับ ถ.กรุงเทพกรีฑาตัดใหม่ (ถ.ศรีนครินทร์-ร่มเกล้า) ใกล้กับสนามบินสุวรรณภูมินิดเดียว

ทำเลและสิ่งอำนวยความสะดวก

จากโครงการเชื่อมต่อ ถนนสำคัญฝั่งตะวันออก 3 สาย ได้แก่ ถ.ร่มเกล้า ถ.กรุงเทพกรีฑาตัดใหม่ และ ถ.มอเตอร์เวย์ ซึ่งนำพาให้เราสามารถเดินทางไปยังโซนใกล้เคียงได้สะดวก ไม่ว่าจะเป็นมีนบุรี ลาดกระบัง หรือช่วงรามคำแหง ถ.มอเตอร์เวย์ยังเป็นจุดที่เชื่อมต่อสู่ทางด่วนศรีรัชฯ แปบเดียวตรงเข้าสู่ใจกลางเมืองย่านพระราม 9 จากหน้าโครงการถ้ากลับรถมุ่งหน้าสุวรรณภูมิก็มี Airport Link ให้ใช้ที่สถานีลาดกระบังในไม่ถึง 10 นาที ส่วนอีกฝั่งที่มุ่งตรงไป ถ.รามคำแหงก็จะเป็นจุดสำคัญที่สถานี Interchange ของรถไฟฟ้าสายสีส้ม และสายสีชมพูที่ สถานีมีนบุรี ในอนาคตครับ สิ่งอำนวยความสะดวกรอบโครงการ จะมีตลาดเล็ก ตลาดน้อยอยู่รายรอบ เช่น ตลาดบวรร่มเกล้า, ตลาดเกรียงไกร ใกล้กับ Community Mall และห้างอย่าง The Paseo Mall, Robinson Lifestyle ลาดกระบัง, Big C Food Place, และบรรดาคอมมูนิตี้ที่กำลังเติบโตบน ถ.กรุงเทพกรีฑาที่เราไปใช้ได้สบายๆ เลยครับ ใกล้สถานศึกษาอย่าง รร.รัตนโกสินทร์สมโภชลาดกระบัง, สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (KMITL), รร.นานาชาติร่วมฤดี ใกล้โรงพยาบาล เช่น รพ.นวมินทร์ 9, รพ.ลาดกระบัง ถ้าใช้ชีวิตอยู่โซนนี้ก็มีอะไรรองรับอยู่ใกล้เคียงครบครับ

ภาพรวมโครงการ

โครงการ “เฌอรีน กรุงเทพกรีฑา – ร่มเกล้า” เป็นโครงการบ้านเดี่ยว 2 ชั้น สไตล์ Modern European ที่มาพร้อม European Courtyard บนผืนดินประมาณ 20 ไร่ครึ่ง ให้ความเป็นส่วนตัวด้วยจำนวนเพียง 83 หลังโดยการออกแบบตัวบ้านให้เหมาะสำหรับทำกิจกรรมร่วมกันภายในครอบครัว ​ด้วยคอนเซ็ปต์ Reconnect & Refocus ขยายเวลาครอบครัว ให้ทุกความรู้สึกเชื่อมถึงกัน” ​ ถ้าใครชอบความเป็นส่วนตัวมีเวลาให้ตัวเองพร้อมๆ กับทำกิจกรรมร่วมกันในครอบครัวโครงการนี้น่าจะตอบโจทย์นะครับ Facilities ของโครงการมีแนวคิดมาจาก สนามบิน ซึ่งเค้าใส่กิมมิคไว้ด้วยลองดูในรูปนะครับ มีพื้นที่สีเขียวรองรับกิจกรรมลูกบ้านควบคู่กับ Jogging Track, พื้นที่ Playground สำหรับเจ้าตัวเล็กเค้าออกแบบพื้นรองรับแรงกระแทกเอาไว้ให้ด้วย และยังมี Clubhouse คอยให้บริการซึ่งมีทั้งสระว่ายน้ำระบบเกลือ, ฟิตเนส, Co-working Space และพื้นที่นั่งพักผ่อนครับ

รูปแบบบ้านที่นี่มี 3 Type ได้แก่

  • บ้านขนาดเริ่มต้น WELATION (มาจาก We + Relation ออกแบบเพื่อเชื่อมความสัมพันธ์ของทุกคนในครอบครัว) ที่ดินเริ่ม 50 ตร.ว. พื้นที่ใช้สอยรวม 194 ตร.ม. รูปแบบ 4 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ เหมาะสำหรับครอบครัวเริ่มต้นที่ต้องการพื้นที่ส่วนตัวของตัวเองแต่ก็มีพื้นที่เชื่อมต่อกันกับสมาชิกในครอบครัว อยู่สบายด้วย Master Bedroom ขนาดใหญ่ พร้อมมุม Courtyard ที่สามารถตั้งโต๊ะน้ำชากลางสวน หรือ ต่อเติมเป็น Glasshouse ได้ตามความต้องการ
  • บ้านขนาดกลาง WELAX (มาจาก We + Relax ออกแบบเพื่อการพักผ่อนร่วมกัน) ที่ดินเริ่ม 60 ตร.ว. พื้นที่ใช้สอยรวม 236 ตร.ม. รูปแบบ 4 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ + ห้องทำงาน จุดเด่นคือมีพื้นที่แบบ Double-Volume อยู่กลางบ้าน และ Courtyard ที่เป็นจุดเชื่อมโยงกันระหว่างทุกพื้นที่ภายในและภายนอกบ้าน ให้ได้รับรับแสงธรรมชาติและพื้นที่สีเขียวได้เต็มที่
  • บ้านขนาดใหญ่ที่สุด WELIBER (มาจาก We + Liberty ออกแบบเพื่ออิสระในการใช้ชีวิตภายใต้บ้านหลังเดียวกัน) ที่เดินเริ่ม 70 ตร.ว. พื้นที่ใช้สอยรวม 302 ตร.ม. รูปแบบ 4 ห้องนอน 6 ห้องน้ำ 3 ที่จอดรถ พร้อมห้องแม่บ้านในตัว มี Courtyard ให้ได้อยู่ใกล้ชิดธรรมชาติ รองรับครอบครัวขนาดใหญ่ ด้วยฟังก์ชันหลากหลาย ทั้งห้องอเนกประสงค์ชั้นล่าง และห้องนอนทุกห้องมีห้องน้ำในตัวครบ บ้านหลังนี้มีแกนหลักคือให้ทุกคนมีพื้นที่ส่วนตัวอย่างเพียงพอเพื่อ Refocus กับตัวเอง แต่ก็มีพื้นที่ส่วนรวมที่ถูกออกแบบมาให้ได้ Reconnect กับครอบครัวได้อย่างลงตัวด้วยครับ
บ้านทุกหลังมาพร้อมกับระบบ SMART LIVING ซึ่งมีทั้งระบบฟอกอากาศด้วยเครื่อง Panasonic nanoe™ X, Digital Door Lock, Junction รองรับการติดตั้งใช้งาน EV Charger แยกวงจรกับภายในบ้าน พร้อมทั้งติดตั้ง SMART Home Security เพื่อความอุ่นใจอีกขั้นนึงด้วยครับ ที่นี่ราคาเริ่มตั้งแต่ 8-12 ล้านบาท (ค่าส่วนกลาง 45 บาท/ตร.ว.) โครงการจัดบ้านตัวอย่างเอาไว้ 2 แบบ ซึ่งเราจะพาไปชมกันทั้ง 2 หลังเลย ใครที่สนใจบ้านโครงการนี้ คลิกลงทะเบียนรับสิทธิพิเศษกันได้ที่นี่เลยครับ >> https://bit.ly/457qLsi , https://bit.ly/3Gd8b6W

สอบถามรายละเอียดโครงการเพิ่มเติม

#LivingSneakPeek #รีวิวบ้าน #CHERENE #เฌอรีน #บ้านเดี่ยว #CHERENEกรุงเทพกรีฑาร่มเกล้า #บ้านเดี่ยวกรุงเทพกรีฑา #บ้านเดี่ยวร่มเกล้า #กรุงเทพกรีฑา #ร่มเกล้า #บ้านพระราม9 #บ้านเดี่ยวลาดกระบัง #บ้านเดี่ยวมีนบุรี #บ้านใกล้สนามบินสุวรรณภูมิ #พีซแอนด์ลิฟวิ่ง #PEACEANDLIVING #CHERENEกรุงเทพกรีฑาร่มเกล้า #Peace&Living CHERENE ตามมาดูกันเลยครับว่า เฌอรีน กรุงเทพกรีฑา – ร่มเกล้า บ้านเดี่ยวที่นี่จะมีบรรยากาศและฟังก์ชันอะไรที่น่าสนใจบ้าง จุดเด่นของบ้านก็คือพื้นที่สีเขียวที่อยู่ตรงกลางบ้าน และสามารถเชื่อมโยงได้กับทุกพื้นที่ภายในที่ได้รับการแบ่งสัดส่วนเป็นฟังก์ชั่นต่างๆ สำหรับทุกคน วันที่เราเข้าไปก็ได้เห็นสวนส่วนกลางสวยๆ รอต้อนรับเคียงคู่กับ Clubhouse แต่ก่อนจะพามาดู Facilities เหล่านี้ ขอพาไปดูบ้านน่ารักๆ ของเค้าก่อนละกัน เริ่มกันที่บ้านแบบแรก WELATION (บ้านขนาดเริ่มต้น) แบบบ้านที่มีแนวคิดมาจาก We + Relation ออกแบบเพื่อเชื่อมความสัมพันธ์ของทุกคนในครอบครัว บนที่ดิน 50 ตร.ว. พื้นที่ใช้สอยรวม 194 ตร.ม. รูปแบบ 4 ห้องนอน 3 ห้องน้ำ จอดรถได้ 2 คันกันก่อนครับ ตัวดีไซน์ของบ้านด้านนอกเราก็ได้เห็น Arc โค้งเพิ่มความละมุนละไมสไตล์ยุโรป มีสีขาวตัดด้วยโทนเขียวอ่อนให้ความรู้สึก Homey สามารถเดินเข้าบ้านได้จากทั้งประตูฝั่งโรงรถ และฝั่งหน้าบ้านเลยครับ เปิดประตูแอ๊ดด ผ่าน Digital Door Lock เข้ามา จะพบกับ Modern Foyer ฝั่งขวามือเค้าออกแบบเป็นฟังก์ชันของตู้เก็บรองเท้าคู่กับที่นั่งใส่รองเท้าในตัว ทำออกมาได้น่ารักเลย พื้นที่ตรงนี้ก็มีไว้เพื่อการนี้แหละครับ ใครจะทำเป็นตู้เก็บหยิบของที่จะเอาเข้าออกบ้านไว้สะดวกๆ ก็ทำตรงนี้ได้เลย ฝั่งซ้ายมือ มุมแรกมุมโปรดของครอบครัว คือ Living Area ที่ทางโครงการให้ชื่อว่า Private Living Wing นั่นเอง มีช่องแสงทั้ง 2 ทาง อยู่ในระยะดูทีวีกำลังดี มีพื้นที่กว้างสบาย สามารถวางโซฟาเข้ามุม 3-4 ที่นั่งได้เลย พื้นชั้นล่างนี้เค้าทำเป็นแกรนิตโต้แผ่นใหญ่ไว้ให้ไว้รับแขก หรือใช้เป็นพื้นที่ส่วนตัว แต่ยังคงเชื่อมต่อกับสมาชิกคนอื่นในส่วนของ Dining Area และ Courtyard ด้านในได้ครับ ถัดเข้าไปด้านในตัวบ้าน โซนหิวเมื่อไหร่ก็แวะมา เป็นพื้นที่ทานอาหารขนาดใหญ่ กว้างขวางแบบที่จัดวางเคาน์เตอร์ Island และชุด Pantry ครัวแล้วยังหลวมๆ เลย เอาไว้เสิร์ฟอาหารง่ายๆ หรือมุมกินขนมสำหรับทุกคนในบ้าน ที่อยู่ติดกันด้านหลังมี 3 ห้องไล่เรียงมาจากซ้ายไปขวา เป็นห้องนอนที่ปรับเปลี่ยนฟังก์ชันได้ตามใจ ห้องน้ำสำหรับใช้ร่วมกันชั้นล่าง และห้องครัวไทยแบบครัวปิด มีพื้นที่ทำมาให้แล้วเรียบร้อย ส่วนทานอาหารเชื่อมโยงไปกับ Courtyard ข้างบ้าน นั่งทานอาหารไป มองวิวสวย ๆ ไปสบายตาช่วยเจริญอาหารได้ด ทางโครงการแต่งห้องนอนชั้นล่างเป็นห้องทำงานนะ เหมาะสำหรับชีวิตทุกวันนี้ ถ้าอยู่กันเป็นครอบครัววัยทำงานคงได้ใช้ดีมาก หรือจะปรับเป็นห้องออกกำลังกายก็สะดวกดี เป็นห้องที่ใช้เป็นห้องนอนได้เค้าก็จะเปลี่ยนวัสดุปูพื้นเป็น SPC เปลี่ยน Mood ให้ดูอบอุ่นมากขึ้น เชื่อมต่อกันกับห้องน้ำชั้นล่างใช้งานได้สะดวกเลย หรือถ้าหากมีผู้สูงอายุ ทางโครงการเตรียมเป็นทางลาด ใช้เป็นห้องนอนผู้สูงอายุได้ด้วยครับ อีกห้องที่อยู่ถัดกันคือห้องครัว ที่ทางโครงการเรียกว่า Optimal Kitchen ที่การออกแบบพื้นที่อย่างพอเหมาะและเหมาะสม รองรับการทำครัวตัว L ขนาดใหญ่ มีหน้าต่างระบายอากาศพร้อมช่องแสงเพิ่มโปร่งสบายตา จากห้องนี้เปิดไปเชื่อมต่อกับโซนซักล้างหลังบ้านได้เลย ขึ้นมาดูชั้น 2 กันบ้าง จะเห็นว่าเค้ามีช่องแสงระหว่างบันไดไว้ให้ด้วยครับ ตรงตามชื่อที่เรียกว่า Lucid Stair Hall และด้วยการออกแบบเป็น Double Volume ให้ความรู้สึกสูงโปร่งอยู่สบาย ขึ้นมาจะพบกับทางเดินรูปตัว I ใช้แนวคิดจากบ้านแบบยุโรป ที่ให้แสงธรรมชาติและอากาศถ่ายเทได้ดีจากหน้าต่างสองฝั่ง ด้านบนมีอีก 3 ห้องนอน แอบไปดูกันหน่อยว่าเค้าตกแต่งออกมาเป็นยังไง ที่เห็นสีสดสะดุดตา เค้าทำเป็นห้อง Hobby ใครชอบทำอะไรก็ปรับฟังก์ชันนะ อย่างเจ้าของห้องนี้ ไม่แดงไม่มีแรงวาดภาพ ใครถนัดขายของทำห้องไลฟ์สดที่นี่ก็ได้ ห้องนอนเล็กด้านบนใช้ห้องน้ำนี้ร่วมกัน ผมชอบตรงที่เปิดระบายอากาศได้ มาพร้อมกระจกบานใหญ่สะใจ น่าใช้งาน อีกห้องนึงดูหวานแหวว ทำเป็นห้องนอนเบบี๋เจ้าตัวเล็ก ห้องนอนที่นี่ทุกห้องจะมีช่องแสงทั้ง 2 ฝั่งเลย พื้นที่กว้างแบบบิวท์อินตู้ยาวตลอดแนวได้สบาย กล่อมน้องนอนแล้วไปต่อกันที่ห้องสุดท้ายของบ้านหลังนี้ครับ เป็นห้อง Master Bedroom สุดอลังการ อภิสิทธิ์ของเจ้าของบ้านผู้ออกตังซื้อนั่นเอง มันโปร่งโล่งดีจริงๆ เลยนะครับ เปิดรับแสงได้รอบด้านเลย บริเวณมุมห้องมีกระจกเปิดไปสู่ระเบียงที่เชื่อมต่อกันทั้ง 2 ฝั่งเลย ใช้เป็นมุมทำงานหรือนั่งอ่านหนังสือตรงนี้เพลินๆ ด้านในสามารถทำ Walk-in Closet ขนาดใหญ่ได้ แถมมีกระจกบานเลื่อนนำพาแสงธรรมชาติที่สาวๆ ชื่นชอบเวลาแต่งหน้าแต่งตัวเข้ามาได้เต็มๆ พร้อมห้องน้ำในตัวด้านใน บ้านตัวอย่างเค้าช่างทำ บิวท์ผนังแบบบิดมุมนิดนึง เพื่อสร้างฟังก์ชันกั้นสัดส่วนให้ห้องนี้เป็นห้องส่วนตัวได้ด้วย ห้องน้ำสำหรับ Master Bedroom ก็จะพิเศษหน่อย มีช่องแสง 2 ฝั่งเลยครับ ออกมายืนตรง European Balcony ที่เค้าให้มาแบบรูปตัว L สามารถปลูกต้นไม้กระถางก็ได้ ยืนชมวิวจากห้องนอนสวยๆ… แล้วขอไปต่อบ้านหลังที่ใหญ่ขึ้นกันเลย หลังนี้คือ Type WELAX (บ้านขนาดกลาง) แบบบ้านที่มีแนวคิดมาจาก We + Relax ออกแบบเพื่อการพักผ่อนร่วมกันที่ดินเริ่ม 60 ตร.ว. พื้นที่ใช้สอยรวม 236 ตร.ม. รูปแบบ 4 ห้องนอน 5 ห้องน้ำ 2 ที่จอดรถ + ห้องทำงาน หน้าตาคล้ายๆ กันกับ Type แรกแต่จั่วสูงขึ้น เช่นเคยครับ เค้ารักษาฟังก์ชันหลังจากเข้าบ้านเหมือนกับหลังแรก built-in ตู้เก็บรองเท้าและที่นั่งสำหรับใส่รองเท้า ทำเป็น Arc โค้งล้อไปกับดีไซน์ตัวบ้าน ฝั่งซ้ายมือเป็นมุมทำงาน เป็น space พิเศษที่เพิ่มขึ้นมาสำหรับบ้านขนาดกลางและเชื่อมโยงไปยังพื้นที่ Welax Courtyard กลางบ้าน ที่เค้าออกแบบเป็นลักษณะ Glasshouse เดินเชื่อมโยงถึงกันหมดจากทุกพื้นที่ชั้นล่าง แถมได้รับแสงธรรมชาติได้รอบด้านอีกด้วย พอทำแบบนี้แล้วก็ได้พื้นที่ใช้สอยเพิ่มขึ้นด้วย เรียกว่าจะชมสวนยามฝนตก แดดออก นกกระจอกเข้ารัง ก็มานั่งได้ตลอดเวลา เนี่ยแหละครับความเชื่อมโยงต่อกันเข้ามาสู่พื้นที่ Living Area กลางบ้าน ซึ่งมีส่วนหนึ่งเป็นเพดานสูงแบบ Double Volume ด้วย เพิ่มความโปร่งและเพิ่มแสงให้เข้ามาทั่วถึงได้มากขึ้น โซนนี้มีลักษณะเป็น Open Plan เชื่อมโยงกันทั้งหมดครับ ทั้ง Living Area / Dining Area / พื้นที่ชั้น 2 หรือแม้กระทั่งสวนด้านนอกอย่าง Courtyard เมื่อสักครู่ นี่แหละคอนเซปต์เรื่องการ connect ถึงกันหมดสำหรับบ้านหลังนี้ครับ ด้วยความที่พื้นที่กว้างก็จัดวางโซฟาชุดใหญ่ได้มากขึ้น ร่วมกับโต๊ะกินข้าวได้อย่างน้อย 6 ที่นั่ง ที่เชื่อมโยงกับช่องแสงอีกทางหนึ่งของบ้าน หลังนี้มีทางเดินออกไปสู่สวนข้างบ้านได้รอบเลย ที่อยู่ติดกันคือห้องนอนชั้นล่าง คราวนี้ทำเป็นห้อง Playroom สำหรับเด็กๆ เห็นมั้ยครับว่าเชื่อมต่อกลับไปยัง Glasshouse ตรง Courtyard และโซนทำงานหน้าบ้านได้ด้วย มีห้องน้ำในตัวให้ใช้ในห้องนี้ ครบฟังก์ชันครับ ที่อยู่ตรงข้ามกันเป็นห้องครัวที่มีขนาดกว้างขวางกว่าบ้านแบบแรกพอสมควร พร้อมหน้าต่างเปิดระบายอากาศได้สองทาง บ้านนี้มีสีเขียวเหนี่ยวทรัพย์หลายจุดแล้ว ก่อนเดินขึ้นบันไดไปชั้นสองเป็นที่ตั้งของห้องน้ำสำหรับแขก และคนในบ้านใช้ร่วมกันชั้นล่างแบบ Powder Room มีเฉพาะสุขภัณฑ์และอ่างล้างมือครับ ขึ้นมาบริเวณชั้นสอง ด้วยพื้นที่ตรงนี้สามารถทำเป็นส่วนนั่งพักผ่อน สำหรับคนในบ้านได้ เพื่อความเป็นส่วนตัวมากขึ้น เชื่อมโยงกันกับพื้นที่ Double Volume ที่เราเห็นเมื่อครู่จากชั้นล่าง คนในบ้านก็สามารถ Connect กันมองผ่านตา ปิ๊งๆ ผ่าน Space ตรงนี้แหละครับ ตรง concept โครงการที่ต้องการให้ Reconnect & Refocus กันได้ตลอดเวลา ข้างบนมีห้องนอนอีก 3 ห้อง มีห้องน้ำในตัวทั้งหมด เริ่มจากห้องนอน 2 ก่อน เค้าตกแต่งเป็นห้องนอนคนละสไตล์ แต่ทำให้เห็นว่าด้วยขนาดพื้นที่ สามารถใส่ฟังก์ชันอื่นๆ ลงไปในห้องได้ ทั้งโต๊ะทำงาน และตู้เสื้อผ้าขนาดใหญ่ ภาพอีกมุมให้เห็นตู้เสื้อผ้าขนาดใหญ่ที่ทางโครงการลองทำมาให้ดูครับ กลับมาเหนี่ยวทรัพย์กันในห้องนอนที่ 3 แต่งมาในสไตล์ลูกกำลังเริ่มโต พื้นที่กว้างขวางนะครับ เค้าสามารถบิวท์อินเป็น Daybed แบบนี้ได้ มีช่องแสงที่หัวเตียงซ้ายขวาเลย และห้องสุดท้ายคือ Master Bedroom ที่มาพร้อมกับฟังก์ชันขนาดใหญ่ นั่นก็คือ Walk-in Closet พร้อมรันเวย์ส่วนตัว ฮ่าๆ อันนี้เค้าทำมาให้ดูเผื่อใครชอบมีตู้เสื้อผ้าใหญ่ๆ ในห้อง แต่สำหรับแปลนเค้าก็จะเป็นพื้นที่โล่งๆ กว้างๆ ตามสไตล์ห้องนอนหลักครับ ช่องแสงเต็มตาเลยครับห้องนี้ ถ้าอยากตื่นสายคงต้องทำผ้าม่านทึบทั้งหมด เห็นหน้าต่างทางด้านขวาใช่ไหมครับ นั่นคือจุดที่สามารถมองลงไปหา Courtyard ได้ด้วยครับ นอกจากนี้เค้าใช้ Walk-in Closet แบ่งโซนในห้องกันระหว่างส่วนพักผ่อน กับส่วนอาบน้ำแต่งตัว ห้องนอนนี้มีระเบียงในตัวหันไปทางหน้าบ้านออกไปเดินได้จากข้างเตียงนี่เลยครับ ด้านในยังมีพื้นที่สำหรับทำเป็นส่วนโต๊ะเครื่องแป้ง พร้อมห้องน้ำในตัวเช่นเคย และก็ครบแล้วครับสำหรับบ้านตัวอย่างที่นี่ เดี๋ยวผมจะพากลับไปดูพื้นที่ส่วนกลางกันอีกรอบ WELIBER (บ้านขนาดใหญ่สุดของที่นี่) แบบบ้านที่มีแนวคิดมาจาก We + Liberty ออกแบบเพื่ออิสระในการใช้ชีวิตภายใต้บ้านหลังเดียวกัน ที่เดินเริ่ม 70 ตร.ว. พื้นที่ใช้สอยรวม 302 ตร.ม. รูปแบบ 4 ห้องนอน 6 ห้องน้ำ 3 ที่จอดรถ พร้อมห้องแม่บ้านในตัว รองรับครอบครัวขนาดใหญ่ ด้วยฟังก์ชันหลากหลาย ทั้งห้องอเนกประสงค์ชั้นล่าง และห้องนอนทุกห้อง มีห้องน้ำในตัวครบ มากันที่พื้นที่ส่วนกลางกันบ้าง ทางโครงการแอบกระซิบมาว่า การออกแบบได้แรงบันดาลใจมาจากสนามบิน ในส่วนของ Clubhouse จะมีสระว่ายน้ำอยู่บริเวณชั้นล่าง พร้อมกับ Co-working Space และพื้นที่ Fitness ด้านบนครับ อย่างวิธีการออกแบบกระจกเต็มบานโซนฟิตเนส เค้าก็อยากให้เราได้ฟีลเหมือนยืนที่ Gate บนสนามบินที่สามารถมองออกไปภายนอกได้เต็มตา ด้านหน้าเป็นลานจอดเครื่องบิน เอ๊ย Playground สำหรับน้องๆ หนูๆ พร้อมพื้นที่เดินแล้วนิ่มเท้า ล้มไม่เจ็บ เพื่อความปลอดภัยครับ นอกจากนี้ Jogging Track ก็ยังได้ไอเดียมาจากการจัดการจราจรใน Runway ของสนามบิน ที่สามารถใช้งานแบบหลบหลีกกันได้ครับ ทั้งหมดนี้ก็คือความน่าสนใจของโครงการ “เฌอรีน กรุงเทพกรีฑา – ร่มเกล้า” ที่เราพามาชมกันในวันนี้นะครับ ที่นี่เป็นบ้านเดี่ยวสองชั้นที่มีขนาดเริ่มต้นค่อนข้างกว้างขวาง เหมาะสำหรับทั้งครอบครัวเดี่ยวและครอบครัวที่กำลังขยายได้ ในทำเลที่เชื่อมต่อการเดินทางด้วยระบบรถ ราง และเครื่องบินสำหรับกรุงเทพฝั่งตะวันออก ใครที่สนใจก็เข้าไปชมโครงการได้นะครับ เปิดทุกวัน